นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้ในวันอังคารที่ 15 เมษายน:
การเคลื่อนไหวในตลาดการเงินเริ่มซบเซาในช่วงต้นวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนในที่สุดก็หยุดพักหลังจากการผันผวนอย่างรุนแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา Eurostat จะเผยแพร่ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกุมภาพันธ์ในภายหลังในเซสชั่นนี้ ในช่วงครึ่งหลังของวัน ข้อมูลเงินเฟ้อจากแคนาดา ดัชนีราคาส่งออก และดัชนีราคานำเข้าจากสหรัฐฯ จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดโดยนักลงทุน
ตารางด้านล่างแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เทียบกับสกุลเงินหลักที่ระบุไว้ สัปดาห์นี้ ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าที่สุดเมื่อเทียบกับ ดอลลาร์์นิวซีแลนด์
USD | EUR | GBP | JPY | CAD | AUD | NZD | CHF | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
USD | 0.07% | -1.05% | -0.46% | -0.01% | -1.20% | -1.60% | -0.40% | |
EUR | -0.07% | -0.63% | -0.10% | 0.37% | -0.54% | -1.24% | -0.04% | |
GBP | 1.05% | 0.63% | 0.93% | 0.99% | 0.09% | -0.61% | 0.60% | |
JPY | 0.46% | 0.10% | -0.93% | 0.45% | -0.96% | -1.35% | 0.22% | |
CAD | 0.01% | -0.37% | -0.99% | -0.45% | -1.15% | -1.59% | -0.46% | |
AUD | 1.20% | 0.54% | -0.09% | 0.96% | 1.15% | -0.69% | 0.51% | |
NZD | 1.60% | 1.24% | 0.61% | 1.35% | 1.59% | 0.69% | 1.24% | |
CHF | 0.40% | 0.04% | -0.60% | -0.22% | 0.46% | -0.51% | -1.24% |
แผนที่ความร้อนแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินหลักเมื่อเทียบกัน สกุลเงินหลักจะถูกเลือกจากคอลัมน์ด้านซ้าย ในขณะที่สกุลเงินอ้างอิงจะถูกเลือกจากแถวบนสุด ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือก ดอลลาร์สหรัฐ จากคอลัมน์ด้านซ้าย และเลื่อนไปตามเส้นแนวนอนไปยัง เยนญี่ปุ่น เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงที่แสดงในกล่องจะแสดงถึง USD (สกุลเงินหลัก)/JPY (สกุลเงินรอง).
ดัชนี ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เคลื่อนไหวขึ้นและลงในช่วงแคบต่ำกว่า 100.00 หลังจากปิดวันจันทร์ลดลงเล็กน้อย ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า รัฐบาลของเขาจะพิจารณาเซมิคอนดักเตอร์และห่วงโซ่อุปทานอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดในการสอบสวนภาษีความมั่นคงแห่งชาติที่จะเกิดขึ้น ทรัมป์ยังกล่าวว่าเขาคาดว่าจะเรียกเก็บภาษีจากยานำเข้าภายใน "อนาคตอันใกล้" ฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงเช้าของวันอังคารในยุโรป หลังจากที่ดัชนีหลักของวอลล์สตรีทเพิ่มขึ้นระหว่าง 0.6% ถึง 0.8% ในวันจันทร์
หลังจากการพุ่งขึ้นทำสถิติในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทองคำยังคงอยู่ในช่วงการปรับฐานเหนือระดับ $3,200 หลังจากปิดไม่เปลี่ยนแปลงมากนักในวันจันทร์
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในแคนาดาคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเปรียบเทียบเป็นรายปีในเดือนมีนาคม ซึ่งตรงกับการเพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ USD/CAD ยังคงเงียบสงบและเคลื่อนไหวไซด์เวย์เหนือระดับ 1.3850 ในช่วงต้นวันอังคาร ในวันพุธ ธนาคารแห่งแคนาดาจะประกาศการตัดสินใจนโยบายการเงิน
USD/JPY ลดลงประมาณ 0.3% ในวันจันทร์และปิดในแดนลบเป็นวันที่สามติดต่อกัน คู่สกุลเงินนี้ฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 143.50 ในช่วงเช้าของวันอังคารในยุโรป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ชุนอิจิ คาโตะ กล่าวซ้ำในวันอังคารว่าความผันผวนที่มากเกินไปในตลาดการเงินจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเงิน
AUD/USD รักษาโมเมนตัมขาขึ้นและเคลื่อนไหวในแดนบวกเหนือ 0.6350 ในช่วงต้นวันอังคาร รายงานการประชุมนโยบายการเงินเดือนเมษายนของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) แสดงให้เห็นว่าสมาชิกคณะกรรมการเห็นพ้องกันว่าการประชุมในเดือนพฤษภาคมจะเป็นเวลาที่เหมาะสมในการพิจารณาทิศทางนโยบาย แต่ระบุว่าการตัดสินใจนั้นไม่ได้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า
EUR/USD ทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 1.1350 ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนยุโรปวันอังคาร
GBP/USD เพิ่มขึ้นเกือบ 0.8% ในวันจันทร์และยังคงปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้นวันอังคาร ขณะนี้คู่สกุลเงินนี้ซื้อขายอยู่ที่ระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนตุลาคมเหนือ 1.3200 สำนักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (ONS) รายงานในช่วงเช้าว่าว่าอัตราการว่างงาน ILO ยังคงทรงตัวที่ 4.4% ในช่วงสามเดือนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งตรงกับความคาดหวังของตลาด ในวันพุธ ONS จะเผยแพร่ข้อมูลเงินเฟ้อสำหรับเดือนมีนาคม
อัตราเงินเฟ้อวัดการเพิ่มขึ้นของราคาในตะกร้าสินค้าและบริการที่ใช้อ้างอิง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมักแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเทียบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะไม่รวมองค์ประกอบที่มีความผันผวนสูงเช่น อาหารและเชื้อเพลิง ปัจจัยเหล่านี้อาจผันผวนเพราะสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็นตัวเลขที่นักเศรษฐศาสตร์ให้ความสำคัญและเป็นตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้อ้างอิงในการกำหนดเป้าหมาย ธนาคารกลางฯ นิยมคงอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2%
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาตะกร้าสินค้าและบริการในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยปกติ CPI จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) CPI หลักคือตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้กำหนดราคาเป้าหมาย เพราะ CPI ทั่วไปไม่รวมปัจจัยเช่นการผลิตอาหารและเชื้อเพลิงที่มีความผันผวน ดังนั้น เมื่อ CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% จึงมักจะส่งผลให้ธนาคารกลางปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อ CPI ลดลงต่ำกว่า 2% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จึงเป็นผลดีต่อสกุลเงิน อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมักส่งผลให้สกุลเงินแข็งค่าขึ้น และตรงกันข้าม สกุลเงินจะอ่อนค่าเมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลง
แม้ว่าอาจดูเหมือนขัดกับภาพความเป็นจริงที่เห็น แต่อัตราเงินเฟ้อในประเทศที่สูงจะผลักดันมูลค่าของสกุลเงินของประเทศนั้นๆ ให้สูงขึ้นเพราะการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งดึงดูดเงินจากนักลงทุนทั่วโลกให้ไหลเข้าประเทศ เพราะพวกเขากำลังมองหาสถานที่ที่มีกำไรจากการฝากเงินของพวกเขา
ในอดีต ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนหันไปพึ่งพาในช่วงเวลาที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง เนื่องจากทองคำยังคงรักษามูลค่าไว้ได้ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนอย่างรุนแรง นักลงทุนมักจะซื้อทองคำด้วยสถานะการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ในปัจจุบันมักไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูง ธนาคารกลางต่างๆ มักจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจึงไม่เป็นผลดีต่อทองคำ เนื่องจากทำให้ต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำลดลงเพราะเป็นสินทรัพย์ที่ดอกเบี้ยไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการนำเงินไปฝากในบัญชีเงินสด ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงมีแนวโน้มที่จะส่งผลบวกต่อทองคำ เพราะจะทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง ทำให้โลหะมีค่าเป็นทางเลือกการลงทุนที่มีโอกาสมากขึ้น