- การส่งออกน้ำมันปาล์มของไทยยังคงพึ่งพาน้ำมันปาล์มดิบ ซึ่งต้องได้รับการพัฒนาให้ยั่งยืนและมีมูลค่าเพิ่ม
- การผลิตน้ำมันปาล์มยั่งยืนเติบโตอย่างมากในไทย โดยเฉพาะในจังหวัดภาคใต้
- การรับรองมาตรฐาน RSPO ช่วยเพิ่มโอกาสและรายได้ให้กับเกษตรกรรายย่อย
นายอัสนี มาลัมพุช ประธานเครือข่ายปาล์มน้ำมันยั่งยืนประเทศไทย (TASPO) เปิดเผยว่า แม้ไทยมีการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้น แต่การพัฒนาให้เป็นสินค้าที่ยั่งยืนและมีมูลค่าเพิ่มยังคงจำเป็น นอกจากนี้ เกษตรกรควรได้รับส่วนแบ่งที่ยุติธรรม ไม่ให้เอกชนได้ประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว การสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยที่เป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมยังเป็นสิ่งสำคัญ โดยเกษตรกรรายย่อยคิดเป็น 85% ของการผลิตในประเทศ
ปัจจุบัน การผลิตน้ำมันปาล์มยั่งยืนของไทยเติบโตจาก 348,027 ตันในปี 2562 เป็น 1,112,048 ตันในปี 2567 โดยศูนย์กลางการผลิตอยู่ในจังหวัดภาคใต้ เช่น สุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ เกษตรกรรายย่อยยังได้รับการสนับสนุนจากองค์การเจรจาระหว่างประเทศว่าด้วยปาล์มน้ำมันยั่งยืน (RSPO) ช่วยให้เข้าถึงทรัพยากรและโอกาสทางการตลาด
สุราษฎร์ธานีเป็นต้นแบบการผลิตน้ำมันปาล์มยั่งยืนในประเทศ และรัฐบาลไทยร่วมกับภาคเอกชนสนับสนุนมาตรฐาน RSPO และการวิจัยเพื่อเพิ่มมูลค่า ในปี 2565 สุราษฎร์ธานีและภาคีพันธมิตรได้ลงนามใน MoU เพื่อยกระดับพื้นที่ให้เป็นเมืองต้นแบบ ในอนาคตประเทศไทยยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลก
การประชุม RSPO RT2024 ที่กรุงเทพฯ จะเป็นส่วนหนึ่งในการย้ำความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการพัฒนาน้ำมันปาล์มที่ยั่งยืนและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและชุมชนที่เกี่ยวข้อง