- ไมเคิล เฟโรลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกน (JPMorgan) เรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งหน้า
- นักลงทุนใช้เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group เพื่อคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- การจ้างงานในภาคเอกชนสหรัฐฯ เดือนส.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 99,000 ตำแหน่ง เป็นสัญญาณของภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ไมเคิล เฟโรลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกน (JPMorgan) ได้เสนอแนวคิดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมที่จะมาถึงในเดือนนี้ เพื่อให้ดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่เป็นกลางโดยเร็วที่สุด โดยเฟโรลีได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “Squawk on the Street” ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา และเพิ่มเติมว่า จุดสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เป็นกลางของเฟดควรอยู่ที่ประมาณ 4% ซึ่งต่ำกว่าระดับปัจจุบัน 1.50%
จากข้อมูลของเครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group นักลงทุนประมาณ 39% คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% สู่ระดับ 4.75% – 5.00% จากระดับปัจจุบันที่ 5.25% – 5.50% ขณะที่อีก 61% คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 5% – 5.25%
เฟโรลีกล่าวต่อว่า หากเฟดรอให้เงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมายที่ 2% อาจจะต้องใช้เวลานานเกินไป ขณะที่เงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมายเล็กน้อย อัตราว่างงานก็อาจสูงกว่าระดับที่เฟดคิดว่าควรสอดคล้องกับเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ ในขณะนี้มีความเสี่ยงทั้งในเรื่องของตัวเลขการจ้างงานและเงินเฟ้อ แต่สามารถเปลี่ยนทิศทางนโยบายได้เสมอหากความเสี่ยงเหล่านั้นมีการเปลี่ยนแปลง
การแสดงความเห็นของเฟโรลีมีขึ้นหลังจากข้อมูลจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่า การจ้างงานในภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 99,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนม.ค. 2564 และมาพร้อมกับการที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่าอัตราว่างงานในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นแตะ 4.3% ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงสัญญาณของภาวะเศรษฐกิจถดถอย