- ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI รายงานว่าอิสราเอลอาจโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของอิหร่าน ซึ่งอาจส่งผลให้การผลิตน้ำมันเบนซินในอิหร่านไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ
- การปรับขึ้นราคา OSP ของน้ำมันดิบในเอเชียเกิดจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่อาจเพิ่มสูงขึ้น
- ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI คาดการณ์ว่า crack spread ของน้ำมันดีเซลในเอเชียจะเพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคม แต่ยังแนะนำ "Neutral" สำหรับกลุ่มโรงกลั่นไทย
ฝ่ายวิเคราะห์จากบล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI รายงานว่าอิสราเอลอาจวางแผนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของอิหร่าน เพื่อตอบโต้การยิงมิสไซล์จากอิหร่าน การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่สูงขึ้นในภูมิภาค การผลิตน้ำมันของอิหร่านมีสัดส่วนถึง 2.5% ของกำลังการผลิตทั่วโลก และหากเกิดความเสียหายต่อโรงกลั่น Persian Gulf Star (PGS) การผลิตน้ำมันเบนซินในประเทศอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศและการส่งออก
ในทางกลับกัน ราคาขายอย่างเป็นทางการ (OSP) ของน้ำมันดิบในเดือนพฤศจิกายนมีการปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจากอุปสงค์ที่อ่อนตัวในเอเชีย สะท้อนถึงความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง แม้ว่า crack spread ของน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินในเอเชียอาจได้รับผลกระทบไม่มาก
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ยังคาดการณ์ว่า crack spread ของน้ำมันดีเซลในเอเชียจะเพิ่มขึ้นเป็น 12.4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในเดือนตุลาคม จาก 10.8 เหรียญสหรัฐในเดือนกันยายน เนื่องจากสต๊อกในยุโรปลดลงและโรงกลั่นในเอเชียมีการปรับลดกำลังการผลิต นอกจากนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงแนะนำ "Neutral" สำหรับกลุ่มโรงกลั่นไทย เนื่องจากคาดว่า GRM จะอยู่ในช่วงกลางวงจรที่ 5-6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในปี 2568 โดยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นมีทั้งจากอุปสงค์ที่ไม่แน่นอนและขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันที่สูงกว่าคาด