tradingkey.logo

ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าผันผวนในกรอบแนวรับ 1,140-1,125 จุด จับตาการประชุม กนง. และเจรจาการค้าสหรัฐฯ

TradingKey
ผู้เขียนJane
27 เม.ย. 2025 เวลา 2:28
  • ดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าอาจเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,140 และ 1,125 จุด และแนวต้าน 1,175 และ 1,190 จุด
  • ปัจจัยที่ต้องจับตามองได้แก่การประชุม กนง., ผลประกอบการของบจ.ไทย, ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า, และกระแสเงินทุนต่างชาติ
  • ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวน แต่ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน, เทคโนโลยี และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า

TradingKey - ในสัปดาห์หน้า (28 เม.ย.-2 พ.ค. 2568) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยคาดการณ์ว่าดัชนีหุ้นไทยอาจแกว่งตัวในกรอบแนวรับที่ 1,140 และ 1,125 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,175 และ 1,190 จุด ปัจจัยที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีได้แก่การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 30 เมษายน ผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า และทิศทางการไหลของเงินทุนต่างชาติ

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ เช่น รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนมีนาคม ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ดัชนี ISM/PMI ภาคการผลิต ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือนเมษายน เป็นต้น

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยมีการเคลื่อนไหวผันผวนแต่สามารถกลับมาปิดบวกได้ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สาม โดยในช่วงต้นสัปดาห์มีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามการค้า ส่งผลให้เกิดแรงเทขายทำกำไรในหุ้นทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารที่ประกาศผลประกอบการเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ดี ดัชนีได้ดีดตัวขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์จากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงานและเทคโนโลยี และความคาดหวังต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าอย่างญี่ปุ่นและอินเดีย ต่อมาในช่วงปลายสัปดาห์ ดัชนีได้ปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค โดยมีแรงหนุนหลักจากหุ้นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่

ในวันศุกร์ที่ 25 เมษายน ดัชนี SET ปิดที่ 1,159.00 จุด เพิ่มขึ้น 0.70% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 36,044.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.53% ส่วนดัชนี mai ปิดที่ 257.93 จุด เพิ่มขึ้น 2.28%

ตรวจสอบโดยJane
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง