ดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันอังคาร (22 เม.ย.) โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,186.98 จุด เพิ่มขึ้น 1,016.57 จุด หรือคิดเป็น 2.66% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,287.76 จุด เพิ่มขึ้น 129.56 จุด หรือ 2.51% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,300.42 จุด เพิ่มขึ้น 429.52 จุด หรือ 2.71% สาเหตุหลักมาจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่าความขัดแย้งดังกล่าวจะคลี่คลายลงเร็ว ๆ นี้
ในการประชุมนักลงทุนที่จัดขึ้นโดยธนาคารเจพีมอร์แกนในกรุงวอชิงตัน เบสเซนต์คาดการณ์ว่าความขัดแย้งด้านการค้าจะคลี่คลายลงและเชื่อว่าจะช่วยลดความวิตกกังวลของตลาดทั่วโลก แม้ว่าสหรัฐฯ จะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 145% และจีนตอบโต้ด้วยอัตราภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ ที่ 125% แต่เป้าหมายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ใช่การแบ่งแยกเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ เบสเซนต์ยังกล่าวว่า แม้การเจรจาจะยืดเยื้อ แต่สหรัฐฯ และจีนไม่คิดจะปล่อยให้สถานการณ์นี้ดำเนินต่อไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ความคิดเห็นของเบสเซนต์ยังช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการขู่ปลดเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ของประธานาธิบดีทรัมป์ หากพาวเวลไม่เร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งนักลงทุนกังวลว่าความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดอาจได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม นีล แคชแครี ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิสเน้นถึงความสำคัญของความเป็นอิสระของเฟดต่อเศรษฐกิจ ขณะที่คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรปคาดว่าทรัมป์จะไม่ปลดพาวเวล
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน โดยข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า มีบริษัท 82 แห่งในดัชนี S&P500 ที่รายงานผลประกอบการแล้ว และในจำนวนนี้ 73% รายงานผลประกอบการสูงกว่าคาด หุ้นทั้ง 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก โดยหุ้นกลุ่มการเงินนำการปรับขึ้น 3.28% ตามด้วยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยที่เพิ่มขึ้น 3.23%
ในส่วนของหุ้นรายตัว หุ้น 3M พุ่งขึ้น 8.1% หลังจากรายงานกำไรไตรมาส 1/2568 เกินคาด แม้ว่าจะคาดว่ากำไรปีงบประมาณ 2568 อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากร ขณะที่หุ้นของนอร์ธรอป กรัมแมน ดิ่งลง 12.7% หลังจากกำไรลดลง