tradingkey.logo

หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐทรงตัว ขณะที่ตลาดประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยและภาษีการค้า

Investing.com21 มี.ค. 2025 เวลา 3:25

Investing.com - หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐขยับขึ้นเล็กน้อยในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี ขณะที่นักลงทุนยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อาจอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน และมาตรการภาษีการค้าเพิ่มเติมภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

การปรับลดคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจโดย FedEx Corporation (NYSE:FDX) ยังกดดันความเชื่อมั่นของตลาด เนื่องจากบริษัทดังกล่าวถือเป็นตัวชี้วัดกิจกรรมทางธุรกิจทั่วโลก หุ้นของบริษัทร่วงลงกว่า 5% ในการซื้อขายหลังตลาดปิด

หุ้นฟิวเจอร์สขยายการขาดทุนจากการซื้อขายที่เป็นลบในตลาดวอลล์สตรีท เนื่องจากหุ้นสหรัฐยังคงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบหกเดือน หลังจากการเทขายอย่างหนักในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยปัจจัยหลักที่กดดันมูลค่าหุ้น ได้แก่ ภาษีการค้า อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูง และความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมถึงการร่วงลงอย่างต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่

S&P 500 ฟิวเจอร์ส ปรับตัวขึ้น 0.1% แตะ 5,720.75 จุด ขณะที่ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.2% แตะ 19,918.75 จุด ณ เวลา 06:24 น. (GMT+7) ส่วน ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ขยับขึ้น 0.1% แตะ 42,315.0 จุด

เฟดส่งสัญญาณที่หลากหลายและคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด

ธนาคารกลางสหรัฐมอบช่วงเวลาแห่งความโล่งใจให้ตลาดในสัปดาห์นี้ ด้วยการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามที่คาดการณ์กันอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตาม เฟดก็ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อและลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของปี 2025

แม้ว่าเฟดจะยังคงคาดการณ์ว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 50 จุดพื้นฐานภายในปีนี้ แต่แนวโน้มเงินเฟ้อที่ยังคงสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% ก็ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายในอนาคต

เฟดยังระบุว่า ยังไม่แน่ใจว่าภาษีของทรัมป์จะส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐอย่างไร โดยเฉพาะในแง่ของอัตราเงินเฟ้อ

ความกังวลเกี่ยวกับภาษีกดดันวอลล์สตรีท

ดัชนีในตลาดวอลล์สตรีทปรับตัวลดลงเมื่อวันพฤหัสบดี แม้จะเริ่มต้นวันด้วยการปรับตัวขึ้น แต่ยังคงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบหกเดือน เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงอ่อนแอ

ภาษีการค้าของทรัมป์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทรัมป์เปลี่ยนท่าทีเกี่ยวกับมาตรการต่อแคนาดาและเม็กซิโก ขณะที่ทั้งสองประเทศ รวมถึงจีนและกลุ่มยูโรโซน ต่างก็ออกมาตรการตอบโต้ภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งอาจนำไปสู่สงครามการค้าทั่วโลก

ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าและความเป็นไปได้ของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอันเป็นผลจากสงครามดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดวอลล์สตรีทตลอดเดือนที่ผ่านมา แม้ว่าหุ้นจะได้รับแรงหนุนบ้างในสัปดาห์นี้ แต่ก็ยังคงขาดทุนในปี 2025 โดยดัชนี S&P 500 เคยเข้าสู่ภาวะปรับฐานชั่วคราวเมื่อต้นเดือนนี้

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ถือเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการเทขายล่าสุด

ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.2% ปิดที่ 5,662.89 จุด ขณะที่ NASDAQ คอมโพสิต ร่วงลง 0.3% แตะ 17,691.63 จุด ส่วน ดาวโจนส์ ปิดตลาดแบบทรงตัวที่ 41,953.32 จุด

ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยTony
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง