tradingkey.logo

หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐขยับขึ้น หลังวอลล์สตรีทร่วงหนักจากผลกระทบของนโยบายภาษี

Investing.com4 มี.ค. 2025 เวลา 2:13

Investing.com - ดัชนีฟิวเจอร์สของตลาดหุ้นสหรัฐขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วงค่ำวันจันทร์ หลังตลาดวอลล์สตรีทร่วงหนัก เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันการเก็บภาษีศุลกากร 25% ต่อแคนาดาและเม็กซิโกเริ่มตั้งแต่วันนี้ รวมถึงการตัดสินใจเพิ่มอัตราภาษีสินค้าจีนเป็นสองเท่า

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิเคราะห์ผลสำรวจภาคการผลิต ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากร

S&P 500 ฟิวเจอร์ส ขยับขึ้น 0.2% มาเป็น 5,870.75 จุด ขณะที่ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 20,517.75 จุด ณ เวลา 07:04 น. (GMT+7) ด้าน ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ขยับขึ้น 0.1% มาเป็น 43,294.0 จุด

ภาษีของทรัมป์ส่งผลให้ตลาดร่วงหนัก

เมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศใช้ภาษีศุลกากร 25% กับสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกมีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม และลงนามในคำสั่งเพิ่มภาษีสินค้าจีนเป็น 20% จากเดิม 10%

ทรัมป์ยังยืนยันว่ามาตรการภาษีตอบโต้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนเป็นต้นไป

หลังการประกาศดังกล่าว ดาวโจนส์ ดิ่งลง 1.5% ปิดที่ 43,192.04 จุด ขณะที่ S&P 500 ร่วง 1.8% สู่ระดับ 5,849.88 จุด และ NASDAQ คอมโพสิต ลดลง 2.6% ปิดที่ 18,350.19 จุด

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะบริษัทที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์และเซมิคอนดักเตอร์ ก็เผชิญแรงเทขายอย่างหนัก

ราคาหุ้นของ NVIDIA (NASDAQ:NVDA) ร่วง 8.7% เข้าสู่ภาวะตลาดหมี ขณะที่บริษัทอื่นอย่าง Broadcom Inc (NASDAQ:AVGO) และ Super Micro Computer Inc (NASDAQ:SMCI) ก็เผชิญแรงกดดันเช่นกัน

The Wall Street Journal รายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า ผู้ซื้อชาวจีนกำลังหาทางเลี่ยงข้อห้ามการส่งออกของสหรัฐเพื่อสั่งซื้อชิป Blackwell ของ Nvidia

ภาวะตกต่ำของภาคส่วนนี้สะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับผลกระทบของภาษีศุลกากรต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกและแนวโน้มกำไรในอนาคต

ข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอ สะท้อนความกังวลเรื่องภาษี

สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) ได้เปิดเผยรายงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิต เมื่อวันจันทร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของสหรัฐขยายตัวเพียงเล็กน้อยในเดือนกุมภาพันธ์

PMI ออกมาที่ 50.3 ลดลงจาก 50.9 ในเดือนมกราคม โดยยังอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งเป็นเส้นแบ่งระหว่างการขยายตัวและหดตัว

ที่น่าสนใจคือ ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ลดลงสู่ระดับ 48.6 ซึ่งอยู่ในโซนหดตัว บ่งชี้ถึงความต้องการในอนาคตที่ลดลง

การชะลอตัวของภาคการผลิตจึงยิ่งซ้ำเติมความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดชี้ให้เห็นถึงอัตราการเติบโตที่อ่อนแอ

"รายงาน ISM ภาคการผลิตของสหรัฐเป็นที่น่าผิดหวัง โดยมีการลดลงอย่างมากในคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ความไม่แน่นอนเรื่องภาษีอาจมีส่วนทำให้เกิดแนวโน้มนี้ และกำลังทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงในการตั้งราคา" นักวิเคราะห์ของ ING ระบุในบันทึก

"ดังนั้น เราคาดว่าจะเห็นกิจกรรมที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศและภาษีที่สินค้าส่งออกของสหรัฐอาจต้องเผชิญจากประเทศอื่น ๆ" พวกเขากล่าวเสริม

ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยTony
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง