Investing.com - นักวิเคราะห์ของ Bank of America (BofA) ได้แนะนำหุ้นญี่ปุ่นหลายตัวให้เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นหลังจากรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่ง โดยเน้นไปที่ศักยภาพของหุ้นเหล่านี้ในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์ของ BofA เน้นย้ำถึงความสำคัญของความน่าเชื่อถือและคุณภาพของกำไรในการคัดเลือกหุ้น โดยเฉพาะในช่วงที่กระแสเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอตัว
นักวิเคราะห์ระบุถึงบริษัทที่สามารถทำผลประกอบการได้ดีกว่าการคาดการณ์ของตลาด โดยมีกำไรจากการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 10% และมีอัตราความก้าวหน้าของแนวทางการดำเนินธุรกิจสูงกว่า 80% โดยไม่มีการปรับลดประมาณการกำไรประจำปี
บริษัทเหล่านี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการคาดการณ์กำไรที่สูง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุน ตามที่นักวิเคราะห์ของ BofA ระบุ
หุ้นที่น่าสนใจก็ได้แก่ Toyota Motor Corp (NYSE:TM TYO:7203) Sony Corp (TYO:6758) Sumitomo Mitsui Financial (TYO:8316) Mizuho Financial Group Inc (NYSE:MFG TYO:8411) และ Takeda Pharmaceutical (TYO:4502)
Toyota รายงานว่ากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 56.2% เมื่อเทียบกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงหนุนจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งและมาตรการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ตามที่นักวิเคราะห์ระบุ
Sony (NYSE:SONY) ได้รับประโยชน์จากการเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจเกมและความบันเทิง โดยผลประกอบการนั้นสูงกว่าการคาดการณ์ถึง 20.8% รายได้ที่หลากหลายของบริษัทยังช่วยสร้างเสถียรภาพ ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่นักลงทุนชื่นชอบ ตามที่ BofA ระบุ
ในภาคการเงิน Sumitomo Mitsui (NYSE:SMFG) และ Mizuho รายงานการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิที่สูงขึ้นและมาตรการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ตามที่นักวิเคราะห์กล่าว
ขณะเดียวกัน Takeda Pharmaceutical รายงานว่ากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นถึง 149.6% โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่แข็งแกร่งของยาเรือธงและกลยุทธ์การขยายธุรกิจระดับโลก
มุมมองในอนาคต BofA ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นญี่ปุ่น โดยเฉพาะในภาค IT บริการ ธุรกิจเกม และการเงิน ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกน้อยกว่า
นอกจากนี้ BofA ยังแนะนำให้ถือหุ้นวัฏจักรคุณภาพสูง (quality cyclical stocks) เพื่อเตรียมพร้อมรับโอกาสที่ตลาดอาจฟื้นตัวระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายน
แนวทางเชิงกลยุทธ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการเลือกหุ้นที่มีกำไรที่เชื่อถือได้ ในช่วงที่ตลาดยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน เช่น ภาษีของสหรัฐฯ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงในญี่ปุ่น ตามที่นักวิเคราะห์ของ BofA กล่าว