หุ้นของบริษัทเทสลา (Tesla) ร่วงลงกว่า 6% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ และลดลงอีกเกือบ 1% ในช่วงเช้าวันถัดมา โดยสาเหตุหลักมาจากความกังวลของนักลงทุนที่บริษัทอาจล้าหลังคู่แข่งสำคัญจากจีนอย่างบีวายดี (BYD) ที่ประกาศแผนพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับร่วมกับดีปซีค (DeepSeek) โดยจะติดตั้งระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะในรถรุ่นใหม่เกือบทั้งหมด
นอกเหนือจากการแข่งขันที่แรงขึ้น หุ้นเทสลายังถูกกดดันจากข่าวที่อีลอน มัสก์ซึ่งเป็นผู้บริหารหลักของบริษัทกำลังให้ความสนใจในกิจการอื่น โดยล่าสุดมีรายงานว่ากลุ่มนักลงทุนนำโดยมัสก์ได้เสนอมูลค่า 9.74 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อกิจการโอเพนเอไอ (OpenAI) ในขณะที่เขายังมีบทบาทสำคัญในกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
จากการรายงานของซีเอ็นบีซี หุ้นเทสลาปรับตัวลงต่อเนื่อง 5 วันทำการ โดยลดลงเกือบ 17% มาอยู่ที่ระดับ 328.50 ดอลลาร์ในวันอังคาร ส่งผลให้มูลค่าตลาดของเทสลาลดลงไปกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สาเหตุจากการคาดการณ์ผลประกอบการที่ไม่เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาด โดยในไตรมาส 4/2567 กำไรต่อหุ้นของเทสลาอยู่ที่ 73 เซนต์ ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 76 เซนต์ และรายได้รวมอยู่ที่ 2.571 หมื่นล้านดอลลาร์ น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.726 หมื่นล้านดอลลาร์