- ดัชนี SET Index คาดว่าจะรีบาวด์ในเดือนมกราคม 2568 เนื่องจากการปรับฐานช่วยลดความร้อนแรงของ Valuation ตลาดหุ้นไทย
- แม้จะมีการไถ่ถอนกองทุน LTF มูลค่า 5.5 พันล้านบาท แต่ไม่คาดว่าจะกดดันดัชนีมากนักเพราะสภาพคล่องยังคงสูง
- มีความเป็นไปได้ที่ SET Index จะเกิดปรากฏการณ์ January effect โดยมีการลงทุนที่น่าสนใจในกลุ่มค้าปลีก, หุ้นปันผลสูง, หุ้นลงทุนทางตรง, และ IFFs/REITs
บทวิเคราะห์จากนายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ ได้สะท้อนทิศทางตลาดหุ้นไทยในเดือนมกราคม 2568 โดยคาดการณ์ว่า SET Index จะสามารถฟื้นตัวจากระดับ 1,360-1,380 จุดได้ โดยการปรับฐานที่เกิดขึ้นช่วยลดความร้อนแรงของมูลค่าตลาดหลังจากการปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ การไถ่ถอนกองทุน LTF ที่จะครบกำหนดอายุในเดือนนี้มีมูลค่าประมาณ 5.5 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะไม่กดดัน SET Index มากนัก เนื่องจากสภาพคล่องของนักลงทุนสถาบันในประเทศยังคงสูง ส่วนหนึ่งจากกองทุนลดหย่อนภาษีที่เข้ามาในช่วงปลายปี 2567
นอกจากนี้ ผลการศึกษาเชิงปริมาณยังพบว่า SET Index มักเกิดปรากฏการณ์ January effect ในช่วงสองสัปดาห์แรกของเดือนนี้ โดยในช่วง 10 ปีหลังสุดให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.4% และมีเพียง 2 ปีที่ผลตอบแทนติดลบ
นายณัฐชาตแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยในระดับ 1,370 จุดตามคำแนะนำก่อนหน้านี้ ยังสามารถถือครองหุ้นต่อไปได้
กลุ่มหุ้นที่น่าสนใจในเดือนนี้ ได้แก่ กลุ่มค้าปลีกและไฟแนนซ์ที่ได้ประโยชน์จากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้และการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย เช่น AEONTS, CPALL, JMT, กลุ่มหุ้นปันผลสูงในดัชนี SETHD เช่น PTT, TISCO, กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนทางตรงของต่างชาติ เช่น WHA และกลุ่ม IFFs/REITs ที่มี Dividend yield gap สูง เช่น DIF, LHHOTEL
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ของไทยในเดือนธันวาคม ซึ่งออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อาจเอื้อต่อการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยในไตรมาส 1 และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ หากเปลี่ยนแปลงจากที่คาดการณ์อาจส่งผลต่อการคาดการณ์ดอกเบี้ยของเฟดในตลาดได้