รัฐมนตรีคลัง สก็อตต์ เบสเซนท์ กล่าวว่า อเมริกาต้องมาก่อนไม่ได้หมายถึงอเมริกาอยู่คนเดียว

Investing.com — รัฐมนตรีคลัง สก็อตต์ เบสเซนท์ ได้กล่าวต่อสถาบันการเงินระหว่างประเทศเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2025 โดยได้วางแผนการฟื้นฟูความสมดุลให้กับระบบการเงินโลก เขาเน้นย้ําถึงความจําเป็นที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลกต้องกลับมาเชื่อมโยงกับภารกิจดั้งเดิม โดยโต้แย้งว่าการขยายภารกิจที่เกินขอบเขตได้ทําให้สถาบันเหล่านี้หลุดออกจากเส้นทางที่ควรจะเป็น

เบสเซนท์เรียกร้องให้มีการปฏิรูปที่สําคัญเพื่อให้มั่นใจว่าสถาบันเบรตตันวูดส์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของชาติกับระเบียบระหว่างประเทศ กําลังรับใช้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เขาแนะนําว่า IMF และธนาคารโลกมีคุณค่าที่ยั่งยืนแต่ต้องการความเป็นผู้นําที่มีวิสัยทัศน์ชัดเจนเพื่อสร้างเศรษฐกิจทั่วโลกที่ปลอดภัย แข็งแกร่ง และมั่งคั่งมากขึ้น

เมื่อกล่าวถึงความไม่สมดุลทางการค้าโลก เบสเซนท์ระบุว่าสหรัฐอเมริกากําลังดําเนินการเพื่อปรับสมดุลการค้าโลก โดยเน้นย้ําถึงการขาดดุลของสหรัฐฯ ที่มีขนาดใหญ่และต่อเนื่องอันเป็นผลมาจากระบบการค้าที่ไม่เป็นธรรม เขาอ้างว่าการเลือกนโยบายโดยเจตนาของประเทศอื่น ๆ ได้บั่นทอนภาคการผลิตและห่วงโซ่อุปทานที่สําคัญของอเมริกา ซึ่งส่งผลให้ความมั่นคงของชาติและเศรษฐกิจตกอยู่ในความเสี่ยง

เบสเซนท์ยังกล่าวถึงประเด็นเศรษฐกิจของจีน โดยระบุว่าจําเป็นต้องมีการปรับสมดุลใหม่ เขาแนะนําว่าจีนควรปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจจากการส่งออกที่มีกําลังการผลิตมากเกินไป ไปสู่การสนับสนุนผู้บริโภคและความต้องการภายในประเทศของตนเอง

รัฐมนตรีคลังยังได้กล่าวถึงประเด็นการพึ่งพาความต้องการของสหรัฐฯ เพื่อกระตุ้นการเติบโตทั่วโลก โดยแสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายที่ส่งเสริมการออมมากเกินไปและกดการเติบโต เขาแนะนําว่าแนวปฏิบัตินี้นําไปสู่เศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอและเปราะบางมากกว่าที่ควรจะเป็น

เบสเซนท์เน้นย้ําถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลทรัมป์ในการรักษาและขยายความเป็นผู้นําทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถาบันการเงินระหว่างประเทศอย่าง IMF และธนาคารโลก เขาวิจารณ์สถาบันเหล่านี้ว่าไม่สามารถบรรลุภารกิจหลักภายใต้สถานะปัจจุบันและเรียกร้องให้มุ่งเน้นกลับไปที่ภารกิจเหล่านี้

เบสเซนท์กล่าวว่า IMF ต้องกลับไปสู่ภารกิจในการส่งเสริมความร่วมมือทางการเงินระหว่างประเทศ อํานวยความสะดวกในการเติบโตของการค้าระหว่างประเทศที่สมดุล และยับยั้งนโยบายที่เป็นอันตราย เขาวิจารณ์ IMF ที่ทุ่มทรัพยากรมากเกินไปให้กับงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพศ และประเด็นทางสังคม โดยโต้แย้งว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของภารกิจของ IMF

ในทํานองเดียวกัน เบสเซนท์เรียกร้องให้ธนาคารโลกกลับไปสู่ภารกิจดั้งเดิมในการช่วยเหลือประเทศกําลังพัฒนาให้เติบโตทางเศรษฐกิจ ลดความยากจน เพิ่มการลงทุนภาคเอกชน สนับสนุนการสร้างงานในภาคเอกชน และลดการพึ่งพาความช่วยเหลือจากต่างประเทศ เขาวิจารณ์ธนาคารที่หลงออกไปจากภารกิจเริ่มต้นและเรียกร้องให้มุ่งเน้นการเพิ่มการเข้าถึงพลังงานและการใช้นโยบายการสําเร็จการศึกษา

ในบทสรุป เบสเซนท์เชิญชวนพันธมิตรให้ทํางานร่วมกับสหรัฐฯ ในการปรับสมดุลระบบการเงินระหว่างประเทศและการมุ่งเน้นกลับไปที่ IMF และธนาคารโลกตามกฎบัตรการก่อตั้ง เขาแสดงความเชื่อมั่นว่าระบบเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่ยั่งยืนมากขึ้นจะตอบสนองผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกาและผู้เข้าร่วมอื่น ๆ ทั้งหมดในระบบได้ดีขึ้น

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน