การปฏิวัติ AI กำลังเผชิญภัยคุกคามจากภาษีนำเข้าหรือไม่?

Investing.com — การเร่งลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์อย่างรวดเร็วโดยบริษัทอเมริกันกําลังเผชิญกับอุปสรรคสําคัญ นั่นคือสงครามการค้าโลกที่จุดชนวนโดยสหรัฐฯ ภายใต้การนําของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

แม้ว่าการใช้จ่ายด้าน AI ยังคงเป็นกลยุทธ์สําคัญระยะยาวสําหรับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่และลูกค้าของพวกเขา การกลับมาของภาษีนําเข้า—โดยเฉพาะการคลื่นล่าสุดที่มุ่งเป้าไปที่สินค้าจากจีน—เสี่ยงที่จะทําลายห่วงโซ่อุปทานที่เป็นรากฐานของการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์นี้

ผลกระทบของภาษีนําเข้าเหล่านี้อาจเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เมื่อบริษัทอย่าง Microsoft (NASDAQ:MSFT), Alphabet (NASDAQ:GOOGL) และ Amazon (NASDAQ:AMZN) รายงานผลประกอบการรายไตรมาส นักวิเคราะห์จะจับตาดูสัญญาณว่าความตึงเครียดทางการค้าเริ่มส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานของพวกเขา และโดยนัยยะถึงการผลักดัน AI ในวงกว้าง

บริษัทสาธารณูปโภคอย่าง Vistra Energy Corp (NYSE:VST) และ Constellation Energy (NASDAQ:CEG) ซึ่งศูนย์ข้อมูลของพวกเขารองรับการทํางานของ AI ก็เผชิญกับความไม่แน่นอนเช่นกัน เนื่องจากลูกค้าล่าช้าหรือลดขนาดข้อผูกมัด

ทั้ง Alphabet และ Microsoft ได้ยืนยันแผนการลงทุนของพวกเขาสําหรับปีนี้—รวมทั้งสิ้น 155 พันล้านดอลลาร์—แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยลดความกังวลลง

นักวิเคราะห์เตือนว่าการยกเลิกข้อยกเว้นสําหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อาจเพิ่มต้นทุนศูนย์ข้อมูลอย่างรุนแรง โดยหนึ่งในความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดคือการหยุดชะงักของอุปทานจากจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตสําคัญสําหรับฮาร์ดแวร์ AI

"โครงสร้างพื้นฐานทางไฟฟ้าและอุปกรณ์ศูนย์ข้อมูลส่วนใหญ่ผลิตนอกสหรัฐฯ ในหลายกรณี อุปกรณ์เหล่านี้มีอุปทานน้อยและความต้องการสูงทั่วโลก" แพท ลินช์ กรรมการผู้จัดการบริหารที่ CBRE (NYSE:CBRE) กล่าว

"ภาษีนําเข้าจะทําให้สถานการณ์นี้ท้าทายมากขึ้น โดยเฉพาะหากซัพพลายเออร์ต่างประเทศเบี่ยงเบนอุปกรณ์เหล่านี้ไปยังตลาดอื่น"

ผลการดําเนินงานของตลาดล่าสุดสะท้อนถึงความระมัดระวังของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น "แม็กนิฟิเซนท์ เซเว่น"—ซึ่งรวมถึง Alphabet, Microsoft, Nvidia (NASDAQ:NVDA) และ Amazon—สูญเสียมูลค่าตลาดไปประมาณ 5 ล้านล้านดอลลาร์นับตั้งแต่พุ่งสูงสุดเมื่อปลายปีที่แล้ว

Nvidia ซึ่งเคยเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ลดลง 26% ในปี 2025 Alphabet สูญเสียไป 20%

สัญญาณเริ่มต้นของการชะลอตัวในการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานเริ่มปรากฏให้เห็น ตามรายงานของ TD Cowen, Microsoft ได้ถอนตัวจากโครงการที่มีกําลังไฟฟ้ารวม 2 กิกะวัตต์ในสหรัฐฯ และยุโรป

ผู้บริหารระดับสูงของ Microsoft ยืนยันว่าบริษัทกําลังชะลอหรือหยุดโครงการในระยะเริ่มต้นบางโครงการเพื่อรักษาความยืดหยุ่น

"การวางแผนเป็นโปรแกรมที่ใช้เวลาหลายปีและเข้มข้นด้านเงินทุน... ความพยายามใหม่ที่สําคัญในขนาดและระดับนี้ต้องการความคล่องตัวและการปรับปรุงเมื่อเราเรียนรู้และเติบโตไปกับลูกค้าของเรา" โนเอล วอลช์ ประธานฝ่ายปฏิบัติการคลาวด์และนวัตกรรมของ Microsoft กล่าวในโพสต์บน LinkedIn เมื่อต้นเดือนนี้

Amazon ยังได้ล่าช้าการเช่าศูนย์ข้อมูลใหม่บางแห่ง ซึ่งบริษัทอ้างว่าเป็นการจัดการกําลังการผลิตตามปกติ

"ดูเหมือนว่าบริษัทไฮเปอร์สเกลเลอร์ (บริษัทคลาวด์ขนาดใหญ่) กําลังพิจารณาการเช่ากลุ่มพลังงานขนาดใหญ่อย่างรอบคอบมากขึ้น" นักวิเคราะห์ของ Wells Fargo กล่าวในบันทึกล่าสุด

แม้จะมีอุปสรรคเหล่านี้ นักลงทุนบางรายยังคงมองโลกในแง่ดี "ตลาดได้ลดทอนการใช้จ่ายระยะสั้นสําหรับ AI อย่างมหาศาล และนั่นเป็นสิ่งที่ผิด" เอริค ชิฟเฟอร์ ซีอีโอของ Patriarch Organization กล่าว

"ผู้เล่นเทคโนโลยีรายใหญ่ไม่สามารถแพ้ในการแข่งขัน AI ได้" เขาเน้นย้ํา พร้อมเสริมว่าบริษัทไฮเปอร์สเกลเลอร์อาจให้ผลตอบแทนที่สําคัญมากขึ้นในระยะเวลาหนึ่งปีถึง 18 เดือน

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน