Investing.com — UBS เตือนในบันทึกวันอังคารว่าตลาดหุ้นอาจมีโอกาสปรับตัวลงต่อเนื่อง เนื่องจากผลกระทบของภาษีนําเข้ายังไม่ได้ถูกคํานวณเข้าไปในราคาอย่างเต็มที่ และนักลงทุนไม่ควรคาดหวังการแทรกแซงอย่างรวดเร็วจากธนาคารกลางสหรัฐฯ
"เราเชื่อว่ายังไม่ถึงจุดต่ําสุด" นักวิเคราะห์ของ UBS เขียน โดยได้จําลองสถานการณ์ภาษีนําเข้าสองรูปแบบจนถึงปี 2027
ในกรณีที่รุนแรงกว่า ซึ่งภาษีนําเข้าปัจจุบันของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ รวมถึงภาษี 145% สําหรับจีน UBS คาดว่า S&P 500 จะลดลงอีก 13% จากระดับวันที่ 21 เมษายน
แม้แต่ในสถานการณ์ที่ปานกลางกว่า ซึ่งภาษีนําเข้าจีนลดลงเหลือ 60% ธนาคารยังคงมองว่าตลาดจะลดลงอีก 7%
UBS คาดว่าตลาดหุ้นจะถึงจุดต่ําสุดประมาณช่วงต้นไตรมาสที่สามของปี 2025 โดยเตือนว่ามูลค่าและกําไรมีแนวโน้มที่จะแย่ลงก่อนถึงเวลานั้น
"ความเป็นไปได้ที่จะเห็นความต้องการภายในประเทศติดลบสองไตรมาสติดต่อกันเป็นเรื่องจริง" บริษัทระบุ
แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าจะมีการฟื้นตัวบ้างภายในสิ้นปี 2025 แต่ UBS กล่าวว่าการเติบโตจะมีเพียงเล็กน้อยเว้นแต่ภาษีนําเข้าจะผ่อนคลายลง พวกเขาเชื่อว่า S&P 500 อาจแตะระดับ 5,500 ภายใต้สถานการณ์ที่ภาษีลดลง แต่หากภาษีนําเข้าปัจจุบันยังคงอยู่ "ตลาดมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวเพียงแค่ระดับที่เราอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น"
ที่สําคัญ UBS กล่าวว่าการเปลี่ยนทิศทางของธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจมาช้าเกินไปที่จะบรรเทาผลกระทบ "การช่วยเหลือจาก Fed ยังไม่ใกล้เข้ามา" นักวิเคราะห์เขียน
อัตราเงินเฟ้อหลักคาดว่าจะยังคงสูง ทําให้ Fed "ตอบสนองมากกว่าเชิงรุก" UBS เชื่อว่าการลดอัตราดอกเบี้ยน่าจะไม่เกิดขึ้นจนถึงเดือนกันยายนเป็นอย่างเร็ว
UBS คาดการณ์การเติบโตของกําไร 0% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้าหากภาษีนําเข้าปัจจุบันยังคงอยู่ และเพียง 4% หากมีการลดลง
นอกจากนี้ยังเตือนว่าแบบจําลองตลาดส่วนใหญ่มองโลกในแง่ดีเกินไป โดยไม่ได้คํานึงถึงว่า "เงินเฟ้อที่เกิดจากต้นทุน" จากภาษีนําเข้าสามารถกระทบกําไรของบริษัทได้อย่างไร
แม้แต่เมื่อการลดอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น UBS เตือนว่า "การติดตาม Fed อย่างไม่ลืมหูลืมตาจะไม่เป็นประโยชน์"
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน