S&P 500: BTIG คาดการณ์ว่าตลาดจะผันผวนและเคลื่อนไหวในกรอบอีก 'หลายสัปดาห์'

Investing.com — หุ้นสหรัฐปิดลดลงอย่างมีนัยสําคัญเมื่อวันพุธ หลังจาก Nvidia (NASDAQ:NVDA) เตือนถึงผลกระทบทางการเงินอย่างมากจากข้อจํากัดใหม่ของสหรัฐในการส่งออกชิปไปยังจีน และประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์ ชี้ให้เห็นถึงการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเพิ่มความไม่สบายใจของตลาดเกี่ยวกับแนวโน้มในวงกว้าง

ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.24% เคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 5100 จุด โจนาธาน ครินสกี้ หัวหน้านักเทคนิคตลาดของ BTIG กล่าวว่า "ความเสี่ยงต่อผลตอบแทนไม่ดีนัก เมื่อพิจารณาจากระดับ 5500-5600 ด้านบวก เทียบกับ 5000-5100 ด้านลบ"

"แม้ว่า SPX ตอนนี้จะอยู่ใกล้ระดับ 5100 มากกว่า 5500 แต่แรงเหวี่ยงขาลงยังคงอยู่ ทําให้การเข้าซื้อตอนตลาดลงเป็นเรื่องยาก" เขากล่าวเสริม

แม้ว่าดัชนีจะมีเสถียรภาพที่ระดับประมาณ 5000 ตลาดมีแนวโน้มที่จะยังคงผันผวนและเคลื่อนไหวในกรอบในช่วงสัปดาห์ต่อไป ครินสกี้ระบุ โดยเปรียบเทียบกับรูปแบบที่สังเกตเห็นในปี 2011

S&P 500 ลดลง 4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกลุ่มป้องกันความเสี่ยง เช่น สาธารณูปโภค, กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) และสินค้าจําเป็นของผู้บริโภค แสดงความยืดหยุ่นโดยยังคงอยู่ในแดนบวก

ในขณะเดียวกัน ภาคส่วนต่างๆ เช่น เทคโนโลยี, บริการด้านการสื่อสาร และสินค้าฟุ่มเฟือย ได้รับความเสียหาย โดยแต่ละภาคส่วนลดลง 5% หรือมากกว่า

"ตลาดยังคงซื้อขายในเชิงป้องกัน" ครินสกี้กล่าว

ในขณะเดียวกัน ดัชนี Transportation (TRAN) แทบจะรักษาระดับเหนือแนวรับหลายปีไว้ได้ โดยประสิทธิภาพเชิงเปรียบเทียบลดลงสู่ระดับที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่ปี 2004

ความรู้สึกของตลาดได้รับผลกระทบบางส่วนหลังจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เตือนว่าภาษีที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้อาจนําไปสู่เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้าลง

ในการกล่าวที่ Economic Club of Chicago พาวเวลล์กล่าวว่าเฟดจะรอข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย

ความเห็นของเขาเพิ่มเติมการขายทิ้งที่ดําเนินอยู่แล้วหลังจากการประกาศของ Nvidia ว่าจะมีค่าใช้จ่าย 5.5 พันล้านดอลลาร์ บริษัทผู้ผลิตชิปกล่าวว่าต้นทุนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับข้อจํากัดการส่งออกใหม่ของสหรัฐสําหรับชิป AI H20 ไปยังจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดหลักของบริษัท

ความตึงเครียดล่าสุดระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งสร้างความหวั่นไหวให้กับนักลงทุนเพิ่มเติม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จีนได้เพิ่มภาษีนําเข้าสินค้าจากสหรัฐเป็น 125% เพื่อตอบโต้การที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นภาษีสินค้าจีนเป็น 145% ซึ่งทําให้ความขัดแย้งทางการค้าที่ดําเนินอยู่ทวีความรุนแรงขึ้น

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน