หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มภาษีสินค้าจีนเป็น 125% จีนได้ตอบโต้ด้วยการเพิ่มภาษีสินค้าสหรัฐฯ สูงสุดถึง 84% ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน การกระทำนี้ทำให้ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจยิ่งดุเดือดขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่าจีนมีแผนจะขึ้นภาษีเพียง 34% แต่ปรับเพิ่มเพื่อแสดงเจตนารมณ์จะ "สู้จนถึงที่สุด" หากมีมาตรการกีดกันเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ
จีนได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทสหรัฐฯ 6 แห่ง เนื่องจากมีส่วนร่วมกับไต้หวันด้านเทคโนโลยีทางทหาร และยังมีหน่วยงานอื่น ๆ ที่ถูกควบคุมการส่งออกจากจีน กระทรวงพาณิชย์จีนวิจารณ์การขึ้นภาษีของสหรัฐฯ โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่สะท้อนพฤติกรรมรังแกแต่เพียงฝ่ายเดียว จีนยืนยันว่าต้องการแก้ไขข้อขัดแย้งทางการค้าโดยการเจรจาอย่างเท่าเทียม
ก่อนหน้านี้ จีนได้ประกาศใช้ภาษีสูงสุด 15% กับสินค้าสหรัฐฯ บางประเภท เช่น ก๊าซธรรมชาติเหลวและเครื่องจักรกลการเกษตร อย่างไรก็ตาม ภาษีใหม่ที่ประกาศมีอัตราสูงถึง 84% และจะถูกเรียกเก็บเพิ่มเติมจากอัตราภาษีเดิมที่มีอยู่แล้ว การกระทำนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดที่ยังคงอยู่ระหว่างสองประเทศ และความจำเป็นสำหรับการเจรจาเพื่อหาทางออกในการแก้ไขข้อขัดแย้งดังกล่าว