ราคาน้ำมันพุ่งต่อเนื่อง หลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันรัสเซีย

Investing.com - ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในตลาดเอเชียวันนี้ต่อยอดจากการปรับตัวขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากตลาดตอบสนองต่อความเป็นไปได้ที่จะเกิดการหยุดชะงักของอุปทานอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่สหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย

ณ เวลา 08:35 น. (GMT+7) น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 1.8% มาอยู่ที่ 81.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.7% มาเป็น 77.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เมื่อวันศุกร์ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเกือบ 3% แตะระดับสูงสุดในรอบสามเดือน

มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่อรัสเซียหนุนราคาน้ำมันพุ่ง

รัฐบาลโจ ไบเดน ประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ที่สุดในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายเพื่อลดรายได้จากน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย ซึ่งถูกมองว่าเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับความขัดแย้งในยูเครน

มาตรการล่าสุดของกระทรวงการคลังสหรัฐ มุ่งเป้าไปที่ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย เช่น Gazprom (MCX:GAZP) Neft และ Surgutneftegas PJSC (MCX:SNGS) รวมถึงเรือ 183 ลำที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งน้ำมันรัสเซีย

เหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่าจะสร้างความปั่นป่วนอย่างมากต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย ทำให้ผู้นำเข้ารายใหญ่ เช่น จีนและอินเดีย ต้องมองหาซัพพลายเออร์ทางเลือกในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และอเมริกา

การเปลี่ยนแปลงนี้คาดว่าจะผลักดันให้ราคาน้ำมันทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น และเพิ่มต้นทุนการขนส่ง นักวิเคราะห์ชี้ว่าการคว่ำบาตรจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย ทำให้โรงกลั่นน้ำมันอิสระของจีนต้องลดกำลังการกลั่น

แนวโน้มนี้สะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่ตึงตัวและความต้องการที่อาจเพิ่มขึ้นจากแหล่งอื่น ๆ นอกจากนี้ การคว่ำบาตรอาจบีบให้รัสเซียตั้งราคาน้ำมันดิบต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งจะส่งผลต่อพลวัตของตลาด

“มาตรการใหม่นี้อาจช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองให้กับรัฐบาลทรัมป์ในการเจรจาในอนาคตกับรัสเซีย เมื่อพิจารณาถึงการตัดสินใจว่าจะยกเลิกหรือไม่และภายใต้เงื่อนไขใดสำหรับมาตรการคว่ำบาตรที่ไบเดนกำหนดไว้” นักวิเคราะห์จาก JP Morgan กล่าวในบันทึกล่าสุด

ความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้นจากอากาศหนาวในสหรัฐและยุโรป

ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังเกี่ยวกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากความหนาวเย็นแผ่ปกคลุมสหรัฐและยุโรป

สภาพอากาศที่หนาวจัดได้เพิ่มความต้องการใช้พลังงานเพื่อให้ความร้อน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่พึ่งพา ก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับให้ความร้อนในบ้านเรือนและอุตสาหกรรม

สำนักงานข้อมูลด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) รายงานว่าปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมันดีเซลลดลงอย่างเห็นได้ชัดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในช่วงอากาศหนาว

ผู้มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมกำลังจับตาการอัปเดตจากผู้ผลิตรายใหญ่ รวมถึง OPEC+ เกี่ยวกับการปรับอุปทานที่อาจเกิดขึ้นเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดในช่วงฤดูหนาวนี้