Investing.com - ราคาน้ำมันขยับขึ้นในกตลาดเอเชียวันนี้ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 จากความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจจีนที่ช่วยสนับสนุนตลาด
เมื่อเวลา 08:19 น. (GMT+7) น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 72.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์ขยับขึ้น 0.2% เป็น 76.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างมากในเซสชั่นก่อนหน้านี้ หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมโรงงานในจีนขยายตัว ทั้งสองสัญญามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง โดย WTI เพิ่มขึ้น 3.6% และ เบรนท์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกือบ 3% ในสัปดาห์นี้
ความหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนช่วยหนุนราคาน้ำมัน
กิจกรรมใน โรงงานของจีน ขยายตัวในเดือนธันวาคม ตามผลสำรวจของ Caixin/S&P Global ที่เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี แม้ว่าจะขยายตัวในอัตราที่ช้ากว่าที่คาดการณ์ก็ตาม
ผลสำรวจอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารยังแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมการผลิตของจีนในเดือนธันวาคมแทบไม่เติบโต แต่ภาคบริการและการก่อสร้างกลับมีผลประกอบการที่ดี โดยข้อมูลชี้ให้เห็นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มส่งผลในบางภาคส่วน
รัฐบาลปักกิ่งได้ส่งสัญญาณถึงการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในปี 2025 และได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายรายการตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา
ธนาคารกลางจีนระบุว่ามีแผนลดอัตราดอกเบี้ยจากระดับปัจจุบันที่ 1.5% “ในเวลาที่เหมาะสม” ในปี 2025 ตามรายงานของ Financial Times ในวันนี้
นักลงทุนยังคงประเมินข้อมูล EIA ท่ามกลางความกังวลเรื่องอุปทานล้นตลาด
สินค้าคงคลังมันดิบ ของสหรัฐลดลง ขณะที่สินค้าคงคลังน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากความต้องการลดลงในสัปดาห์ของวันที่ 27 ธันวาคม ตามรายงานจาก สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (EIA) เมื่อวันพฤหัสบดี
EIA ระบุว่า น้ำมันดิบคงคลัง ลดลง 1.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล
การสำรวจล่าสุดของ EIA แสดงให้เห็นว่าการผลิตน้ำมันในสหรัฐยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่รัฐบาลของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทก็มีแนวโน้มเห็นชอบกับนโยบายที่เน้นการเพิ่มการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลในประเทศ
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของอุปทานล้นตลาด เนื่องจากคาดว่าประเทศนอก OPEC จะเพิ่มการผลิตมากขึ้น ซึ่งยิ่งตอกย้ำสถานการณ์อุปทานล้นตลาด
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุเมื่อไม่นานนี้ว่าตลาดน้ำมันจะยังคงมีอุปทานเพียงพอ แม้ว่าความต้องการคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปี 2025