Investing.com - หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐฯ เคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยในช่วงค่ำวันอาทิตย์ ท่ามกลางความระมัดระวังก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนต่างรอคอยสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ย
หุ้นฟิวเจอร์สเคลื่อนไหวอย่างเงียบเหงาหลังจากการซื้อขายในวันศุกร์ที่ค่อนข้างทรงตัวเนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดชี้ให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งอาจจำกัดแผนการลดดอกเบี้ยของเฟดได้
ดัชนี S&P 500 ฟิวเจอร์ส ทรงตัวที่ 6,128.0 จุด ขณะที่ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 22,074.25 จุด เมื่อเวลา 08:30 น. (GMT+7) ด้าน ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ก็ทรงตัวที่ 44,367.0 จุด
เฟดคาดว่าจะ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 25 จุดพื้นฐาน ในการประชุมที่จะถึงนี้ซึ่งจะสรุปในวันพุธ หลังจากที่ธนาคารกลางเริ่มรอบการผ่อนคลายดอกเบี้ยตั้งแต่ต้นปี
การปรับลดนี้จะทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลงรวมที่ 100 จุดพื้นฐานในปี 2024
อย่างไรก็ตาม ความสนใจในสัปดาห์นี้จึงพุ่งไปที่แผนการลดดอกเบี้ยในอนาคตของเฟด โดยเฉพาะในบริบทของเงินเฟ้อที่สูงและตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่ง
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะส่งสัญญาณถึงการชะลอการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นล่าสุดจากเจ้าหน้าที่เฟด
อัตราดอกเบี้ยก็คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงนโยบายที่อาจกระตุ้นเงินเฟ้อภายใต้ประธานาธิบดีคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์
นักลงทุนมองว่าโอกาสที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมกราคมนั้นอยู่ที่ 79.7% ตามข้อมูลจากเครื่องมือ Fedwatch ของ CME
แม้ว่าดัชนีวอลล์สตรีทจะปิดการซื้อขายในช่วงที่ผ่านมาแบบทรงตัว แต่ก็ยังคงอยู่ใกล้กับจุดสูงสุดที่ทำไว้เมื่อต้นเดือนธันวาคม โดยหุ้นเทคโนโลยีถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ท่ามกลางความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากผู้ผลิตชิป เช่น Broadcom Inc (NASDAQ:AVGO) ยังช่วยเสริมความเชื่อมั่นเกี่ยวกับ AI รวมถึงความคาดหวังต่อชิปรุ่นใหม่จาก NVIDIA Corporation (NASDAQ:NVDA)
ดัชนี S&P 500 ปิดทรงตัวที่ 6,051.09 จุดในวันศุกร์ ขณะที่ NASDAQ คอมโพสิต ขยับขึ้น 0.1% แตะ 19,926.72 จุด และดัชนี ดาวโจนส์ ลดลง 0.2% เป็น 43,828.06 จุด
วอลล์สตรีทยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 แต่การปรับตัวขึ้นก็เริ่มชะลอตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ท่ามกลางความระมัดระวังเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่อาจยังคงสูงในอนาคต