tradingkey.logo

หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐขยับลง หลังวอลล์สตรีทแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

Investing.com12 ธ.ค. 2024 เวลา 2:09

Investing.com - หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐขยับลงเล็กน้อยในช่วงเย็นวันพุธ เนื่องจากวอลล์สตรีทชะลอตัวหลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อของผู้บริโภคที่สอดคล้องกับการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม

หุ้นฟิวเจอร์สทรงตัว หลังจากดัชนีวอลล์สตรีทโดยเฉพาะ Nasdaq แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงในระยะใกล้ หุ้น Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่หุ้นที่เป็นขวัญใจของตลาดอย่าง NVIDIA Corporation (NASDAQ:NVDA) พุ่งขึ้นกว่า 3%

ความสนใจในขณะนี้จึงอยู่ที่ข้อมูลเงินเฟ้อของผู้ผลิตที่จะประกาศในวันนี้ และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐประจำเดือนธันวาคมในสัปดาห์หน้า

ดัชนี S&P 500 ฟิวเจอร์ส ขยับลง 0.1% แตะที่ 6,085.75 จุด ขณะที่ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.2% เป็น 21,754.0 จุด เมื่อเวลา 08:30 น. (GMT+7) ด้าน ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.1% มาเป็น 44,167.0 จุด

ข้อมูล CPI ยืนยันเดิมพันการลดอัตราดอกเบี้ยเดือนธันวาคม

รายงานดัชนี CPI ได้แสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 7 เดือนในเดือนพฤศจิกายน แต่ตัวเลขดังกล่าวส่วนใหญ่ก็สอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งช่วยลดความกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงเกินกว่าที่คาดการณ์

ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 25 จุดพื้นฐานในการประชุมสัปดาห์หน้า โดยนักวิเคราะห์คาดว่ามีโอกาสถึง 98.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากโอกาส 81% ที่เห็นในสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานจากเครื่องมือ Fedwatch ของ CME

ความสนใจในขณะนี้จึงโฟกัสไปที่ข้อมูล PPI ที่กำลังจะประกาศในวันนี้ ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก่อนการประชุมครั้งสุดท้ายของเฟดในปีนี้

แม้ในขณะนี้ธนาคารกลางคาดว่าจะ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า แต่นักลงทุนกลับมีความมั่นใจน้อยลงเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงสูง

ตลาดคาดการณ์ว่านโยบายขยายตัวและกีดกันการค้าภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำให้ราคาสูงขึ้นเช่นกัน

วอลล์สตรีทได้แรงหนุนจากกำไรในหุ้นเทคโนโลยี

วอลล์สตรีทได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อาจลดลงในระยะอันใกล้ โดยหุ้นเทคโนโลยีปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุด อีกทั้งการคาดเดาเกี่ยวกับการตรวจสอบกฎระเบียบที่น้อยลงต่อภาคส่วนนี้ภายใต้การนำของทรัมป์ยังกระตุ้นให้เกิดการฟื้นตัวของภาคเทคโนโลยี เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่องต่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

ดัชนี NASDAQ คอมโพสิต พุ่งขึ้นถึง 1.8% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 20,033.61 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 0.8% เป็น 6,084.19 จุด

ด้าน ดาวโจนส์ ปิดที่ 44,148.56 จุด ลดลง 0.2% โดยดัชนีได้รับแรงกดดันหลักจากการขาดทุนของหุ้นบริษัทประกันรายใหญ่และบริษัทจัดการผลประโยชน์ด้านเภสัชกรรม หลังจากที่สมาชิกรัฐสภาเสนอร่างกฎหมายที่พรรคการเมืองทั้งสองฝ่ายรับรองเพื่อบังคับให้บริษัทประกันสุขภาพขายธุรกิจเภสัชกรรมของตน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: เนื้อหาข้างต้นทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการใช้งานแพลตฟอร์มของเรา ไม่ได้ให้คำแนะนำในการซื้อขายและไม่ควรเป็นพื้นฐานของการตัดสินใจซื้อขายใดๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง