TradingKey - ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น รัฐบาลทรัมป์ได้กำหนดเป้าหมายไปที่ชิป H20 ของ Nvidia ซึ่งได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับตลาดจีน โดยการกำหนดข้อกำหนดใบอนุญาตส่งออกฉบับใหม่ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีชั้นสูงของสหรัฐฯ ที่มุ่งไปยังจีนให้เข้มงวดขึ้นกว่าเดิม
ในเอกสารที่ยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแลเมื่อวันอังคารที่ 15 เมษายน Nvidia (NVDA.US) ผู้จัดหาชิป AI รายใหญ่ที่สุดของโลก เปิดเผยว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ขณะนี้กำหนดให้ต้องมีใบอนุญาตส่งออกสำหรับการจัดส่งชิป H20 ของบริษัทไปยังจีนในอนาคต โดยมีผลบังคับใช้ทันทีและไม่มีกำหนดสิ้นสุด
ผลจากการเปลี่ยนแปลงนี้ Nvidia ประกาศตัดจำหน่ายสินค้าคงคลังมูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ และยกเลิกการขายที่เกี่ยวข้องกับ H20 สำหรับไตรมาสปัจจุบัน (ไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 2026)
ตามเอกสารที่ยื่น รัฐบาลสหรัฐฯ ได้กำหนดข้อบังคับด้านใบอนุญาตเพื่อบรรเทาความเสี่ยงที่ชิปของ Nvidia อาจถูกใช้หรือเบี่ยงเบนโดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของจีน ซึ่งเป็นประเด็นน่ากังวลในมุมมองด้านยุทธศาสตร์ ท่ามกลางการแข่งขันทางเทคโนโลยีระหว่างสองประเทศ
ข่าวนี้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาครั้งใหญ่ในตลาด โดยหุ้น Nvidia ร่วงลง 6% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ ขณะที่ผลกระทบต่อเนื่องได้แพร่กระจายไปยังพันธมิตรในห่วงโซ่อุปทานของไต้หวันเช้าวันที่ 16 เมษายน ได้แก่ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC, 2330.TW) ร่วง 1.60%, Hon Hai Precision Industry (Foxconn, 2317.TW) ลดลง 1.43% รวมถึง MediaTek, Quanta และ Wistron ต่างลดลงเช่นกัน
ชิป H20 แม้จะเป็นรุ่นที่มีข้อจำกัดด้านฟีเจอร์เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์เรือธงของ Nvidia แต่ยังคงทรงพลังพอในการรองรับการพัฒนาและการปรับใช้แอปพลิเคชัน AI ขั้นสูง อีกทั้งยังถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับข้อจำกัดของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันก็ยังรองรับตลาดจีนได้
Bloomberg รายงานว่า เนื่องจากจีนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งหลักของสหรัฐฯ ในด้านปัญญาประดิษฐ์ สหรัฐฯ จึงมีความไวต่อประเด็นความมั่นคงของการส่งออกเทคโนโลยี AI เป็นอย่างยิ่ง ทำให้ชิป H20 กลายเป็นจุดสนใจในนโยบายการค้าของทรัมป์ที่แข็งกร้าวขึ้นเรื่อยๆ ต่อจีน
เกี่ยวกับการตัดจำหน่ายมูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ของ Nvidia นักวิเคราะห์จาก Counterpoint Research ระบุว่าตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับที่คาดไว้ แม้จะสูงแต่ก็เป็นความสูญเสียที่ Nvidia น่าจะรับมือได้โดยไม่เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อธุรกิจ
ทั้งนี้ บริษัทที่ปรึกษาดังกล่าวแสดงความเห็นว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเจรจาในวงกว้าง โดยเน้นว่าด้วยผลกระทบที่แพร่หลายต่อภาคเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหากจะมีข้อยกเว้นหรือการปรับนโยบายในอนาคต
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ที่ Bloomberg อ้างถึงเตือนว่า ความเป็นผู้นำของ Nvidia อาจส่งผลให้เกิดตัวเลขขาดดุลระหว่าง 14 พันล้านถึง 18 พันล้านในปีงบประมาณนี้ และอาจต้องรอถึงช่วงต้นปี 2024 ก่อนที่ธุรกิจศูนย์ข้อมูลของ Nvidia ในจีนจะกลับมาสู่ระดับก่อนการขยายการผลิต H20 อีกครั้ง