Investing.com — เงินสกุลเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นในวันอังคารท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการลดภาษีจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นหลังจากธนาคารกลางของประเทศส่งสัญญาณความระมัดระวังเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก
US Dollar Index ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก ลดลง 0.1% ในการซื้อขายช่วงเอเชียวันอังคาร ยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ําสุดในรอบสามปีที่ทําได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ประธานาธิบดีทรัมป์เสนอความเป็นไปได้ในการยกเว้นภาษี 25% สําหรับการนําเข้ารถยนต์จากต่างประเทศเมื่อวันจันทร์ โดยเฉพาะสําหรับประเทศเช่นเม็กซิโกและแคนาดา
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลยังได้ให้การยกเว้นสําหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางประเภท เช่น สมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป ซึ่งส่วนใหญ่มาจากจีน
การกระทําเหล่านี้ช่วยบรรเทาความกังวลของตลาดเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังเนื่องจากรัฐบาลทรัมป์ยังคงพิจารณาการเก็บภาษีที่อาจเกิดขึ้นกับการนําเข้าเซมิคอนดักเตอร์และเภสัชภัณฑ์
นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางการค้าของทรัมป์กับจีนยังคงดําเนินต่อไป โดยจีนถูกเก็บภาษีรวม 145% ซึ่งปักกิ่งตอบโต้ด้วยการเก็บภาษี 125% กับสินค้าสหรัฐฯ
คู่สกุลเงินหยวนจีนนอกประเทศ USD/CNH และในประเทศ USD/CNY ต่างลดลง 0.1%
คู่สกุลเงินเยนญี่ปุ่น USD/JPY ลดลง 0.3% ในวันอังคาร
คู่สกุลเงินรูปีอินเดีย USD/INR ลดลง 0.5%
คู่สกุลเงินวอนเกาหลีใต้ USD/KRW เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ธนาคารกลางเกาหลีมีกําหนดประชุมในวันพฤหัสบดีเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
คู่สกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ USD/SGD ลดลง 0.2%
คู่สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย AUD/USD พุ่งขึ้น 1.4% ในวันอังคารหลังจากรายงานการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยว่าคณะกรรมการเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนเมษายนเนื่องจากประเมินความไม่แน่นอนทั่วโลกที่เกิดจากภาษี
ผู้กําหนดนโยบายกังวลว่าการเพิ่มภาษีการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ และจีน อาจทําให้เกิดเงินเฟ้อและเพิ่มความซับซ้อนให้กับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจโลก
สมาชิก RBA ยังรับทราบถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงภาษีเหล่านี้ต่อเศรษฐกิจออสเตรเลีย
ผู้กําหนดนโยบายพิจารณาว่าเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทบทวนการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินเพิ่มเติม
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน