การคาดการณ์ราคา USD/CHF: ขยายสตรีคการชนะเป็นวันที่สี่ติดต่อกัน

USD/CHF

FXStreet19 ก.พ. 2025 เวลา 10:12

USD/CHF ขยับสูงขึ้นไปใกล้ 0.9050 ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวสูงขึ้นก่อนรายงานการประชุม FOMC
เฟดชี้แจงในเดือนมกราคมว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับปัจจุบันจนกว่าตลาดแรงงานจะแข็งแกร่งและแรงกดดันด้านราคาอยู่ในระดับสูง
SNB คาดว่าจะดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างมาก

คู่ USD/CHF ขยายการชนะเป็นวันที่สามติดต่อกันในวันพุธ ฟรังก์สวิสปรับตัวสูงขึ้นไปใกล้ 0.9050 ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) สั่นคลอนก่อนรายงานการประชุมคณะกรรมการตลาดเปิดของเฟด (FOMC) ซึ่งจะเผยแพร่เวลา 19:00 GMT ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งวัดมูลค่าของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุล เคลื่อนไหวอยู่ใกล้ 107.00

นักลงทุนรอคอยรายงานการประชุม FOMC สำหรับการประชุมเชิงนโยบายในเดือนมกราคมเพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับระยะเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดอยู่ เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.25%-4.50% ในเดือนมกราคมและชี้แจงว่าสิ่งที่เหมาะสมในการปรับนโยบายการเงินจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าเจ้าหน้าที่จะเห็น "ความก้าวหน้าอย่างแท้จริงในอัตราเงินเฟ้อหรืออย่างน้อยก็มีความอ่อนแอในตลาดแรงงาน"

ในขณะเดียวกัน อารมณ์ตลาดมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเล็กน้อยสำหรับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง แม้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จะขู่ว่าจะเพิ่มภาษี 25% สำหรับรถยนต์ต่างประเทศ ยา และเซมิคอนดักเตอร์ ดูเหมือนว่านักลงทุนจะไม่ค่อยกังวลเกี่ยวกับภาษีของทรัมป์เนื่องจากไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับกรอบเวลา

ฟรังก์สวิส (CHF) แสดงผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโดยทั่วไป เนื่องจากธนาคารแห่งชาติสวิส (SNB) คาดว่าจะนำเสนอนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างมากเพื่อกระตุ้นแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ซึ่งลดลงมาอยู่ที่ 0.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2021

USD/CHF พยายามที่จะกลับไปยังระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนที่ประมาณ 0.9200 แนวโน้มของคู่ฟรังก์สวิสยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) 20 สัปดาห์ที่ใกล้ 0.8950 กำลังชันขึ้น

ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) 14 สัปดาห์ลดลงสู่ระดับ 40.00-60.00 จากช่วง bullish ที่ 60.00-80.00 ซึ่งบ่งชี้ว่าความแรงขาขึ้นได้ลดลง อย่างไรก็ตาม แนวโน้มขาขึ้นยังคงอยู่

เพื่อให้มีการขยับขึ้นใหม่ไปยังแนวต้านระดับรอบที่ 0.9300 และจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2023 ที่ 0.9342 สินทรัพย์จำเป็นต้องทะลุขึ้นอย่างเด็ดขาดเหนือระดับสูงสุดในเดือนตุลาคม 2023 ที่ 0.9244

ในทางกลับกัน การเคลื่อนไหวลงต่ำกว่าระดับแนวรับทางจิตวิทยาที่ 0.9000 จะดึงสินทรัพย์ไปยังจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ 0.8958 ตามด้วยจุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ 0.8900

กราฟรายสัปดาห์ USD/CHF

US Dollar FAQs

ดอลลาร์สหรัฐคืออะไร?

ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นสกุลเงินที่ใช้อย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกา และเป็นสกุลเงินที่ใช้ 'โดยพฤตินัย' ของประเทศอื่น ๆ จำนวนมากที่มีการหมุนเวียนควบคู่ไปกับสกุลเงินท้องถิ่น เป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายกันมากที่สุดในโลก โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 88% ของมูลค่าการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทั่วโลก หรือมีมูลค่าธุรกรรมเฉลี่ย 6.6 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวันตามข้อมูลของปี 2022 หลังสงครามโลกครั้งที่สอง สกุลเงิน USD เข้ามารับช่วงต่อตำแหน่งสกุลเงินสำรองของโลกจากสกุลเงินปอนด์ของอังกฤษที่เป็นในประวัติศาสตร์ใหญ่ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้ถูกค้ำด้วยทองคำ จนกระทั่งเกิดข้อตกลง Bretton Woods ในปี 1971 เมื่อมาตรฐานการค้ำด้วยทองคำหมดไป

การตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐส่งผลกระทบต่อดอลลาร์สหรัฐอย่างไร?

ปัจจัยเดียวที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐคือนโยบายทางการเงินซึ่งกำหนดโดยธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เฟดมีหน้าที่สองประการ: เพื่อให้บรรลุเสถียรภาพด้านราคา (ควบคุมอัตราเงินเฟ้อ) และส่งเสริมการจ้างงานเต็มรูปแบบ เครื่องมือหลักในการบรรลุเป้าหมายทั้งสองนี้คือการปรับอัตราดอกเบี้ย เมื่อราคาต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้นเร็วเกินไปและอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด ทางเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะหนุนค่าเงิน USD แต่เมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลงต่ำกว่า 2% หรืออัตราการว่างงานสูงเกินไป เฟดอาจเลือกปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อสกุลเงินดอลลาร์

Quantitative Easing คืออะไร และส่งผลต่อเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างไร

ในสถานการณ์ที่รุนแรงมากจริง ๆ ทาง Federal Reserve ยังสามารถพิมพ์ดอลลาร์ออกมาเพิ่มเติมและออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ได้ การทำ QE เป็นกระบวนการที่เฟดเพิ่มการไหลเวียนของสินเชื่อในระบบการเงินที่ติดขัดอยู่อย่างมาก โดยเป็นมาตรการทางนโยบายที่ไม่ได้เป็นมาตรฐานซึ่งใช้เมื่อสินเชื่อหมดเนื่องจากธนาคารจะไม่ให้กู้ยืมระหว่างกัน (เพราะกลัวคู่สัญญาจะผิดนัดชำระหนี้) ก็เป็นทางเลือกสุดท้ายเมื่อการลดอัตราดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวไม่น่าจะบรรลุผลลัพล์ที่จำเป็น ถือเป็นเครื่องทางเลือกสุดท้ายของเฟดในการต่อสู้กับวิกฤติสินเชื่อที่เกิดขึ้นระหว่างวิกฤตการณ์ทางการเงินครั้งใหญ่ในปี 2008 โดยเกี่ยวข้องกับการที่เฟดพิมพ์เงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นและใช้เงินเหล่านั้นเพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสถาบันการเงินต่าง ๆ การทำ QE มักจะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง

Quantitative Tightening คืออะไร และส่งผลต่อเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างไร

การกระชับเชิงปริมาณ (QT) เป็นกระบวนการย้อนกลับของการทำ QE โดยที่ Federal Reserve จะหยุดซื้อพันธบัตรจากสถาบันการเงินและไม่นำเงินต้นไปลงทุนใหม่จากพันธบัตรที่ถืออยู่เพื่อซื้อใหม่ ซึ่งมักจะเป็นปัจจัยบวกสำหรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: เนื้อหาข้างต้นทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการใช้งานแพลตฟอร์มของเรา ไม่ได้ให้คำแนะนำในการซื้อขายและไม่ควรเป็นพื้นฐานของการตัดสินใจซื้อขายใดๆ