NZD/USD ทรงตัวเมื่อเทรดเดอร์เตรียมพร้อมสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธ โดยความสนใจส่วนใหญ่จะอยู่ที่การคาดการณ์ของเฟดสำหรับปี 2025 คู่ NZD/USD เคลื่อนไหวที่ประมาณ 0.5780 ในช่วงชั่วโมงการซื้อขายของเอเชียในวันอังคาร
ตามข้อมูลของเครื่องมือ CME FedWatch ขณะนี้ตลาดเกือบจะคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเฟดเดือนธันวาคม นักลงทุนจะติดตามการแถลงข่าวของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ และสรุปการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจ (dot-plot) หลังการประชุมอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ คู่ NZD/USD ได้รับแรงหนุนเล็กน้อยเมื่อดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังคงอ่อนตัวเป็นวันที่สามติดต่อกันท่ามกลางความระมัดระวังของตลาดก่อนการตัดสินใจของเฟด ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งวัดมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุล ซื้อขายที่ประมาณ 106.70 ณ เวลานี้
ในวันจันทร์ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) คอมโพสิตเบื้องต้นของ S&P Global เพิ่มขึ้นเป็น 56.6 ในเดือนธันวาคม จาก 54.9 ก่อนหน้านี้ ในขณะเดียวกัน ดัชนี PMI ภาคบริการปรับตัวดีขึ้นเป็น 58.5 จาก 56.1 ดัชนี PMI ภาคการผลิตลดลงเป็น 48.3 ในเดือนธันวาคม จากตัวเลขก่อนหน้านี้ที่ 49.7
ที่นิวซีแลนด์ เทรดเดอร์ระมัดระวังเมื่อข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สำหรับไตรมาสที่ 3 มีกำหนดจะประกาศในวันพฤหัสบดี เศรษฐกิจคาดว่าจะหดตัว 0.4% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส ซึ่งอาจกลับเข้าสู่ภาวะถดถอย
ยอดค้าปลีกของจีน ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สำคัญสำหรับคู่ค้าหลักของนิวซีแลนด์ ชะลอตัวลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนพฤศจิกายน ทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดแอนติโพเดียนลดลง ยอดขายเติบโต 3.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.6% และลดลงอย่างมากจากการขยายตัว 4.8% ในเดือนตุลาคม
ในวันจันทร์ ข้อมูลภายในประเทศแสดงให้เห็นว่าดัชนีการบริการของ Business NZ ปรับตัวขึ้นเป็น 49.5 ในเดือนพฤศจิกายน จาก 46.2 ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ นอกจากนี้ ดัชนีราคาสินค้าอาหารเพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤศจิกายน สูงกว่าการเพิ่มขึ้น 1.2% ที่บันทึกไว้ในเดือนตุลาคมเล็กน้อย
ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) หรือที่เรียกกันในชื่อเล่นว่ากีวี เป็นสกุลเงินที่ซื้อขายกันดีในหมู่นักลงทุน มูลค่าของสกุลเงินดังกล่าวถูกกําหนดโดยความแข็งแรงของเศรษฐกิจนิวซีแลนด์และนโยบายจากธนาคารกลางภายในประเทศ ถึงกระนั้น ก็มีปัจจัยเฉพาะบางอย่างที่สามารถทําให้ NZD เคลื่อนไหวได้อย่างเช่น ผลการดําเนินงานของเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะขยับราคากีวี เนื่องจากจีนเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ เช่นหากมีข่าวร้ายสําหรับเศรษฐกิจจีนก็มักจะหมายถึงการส่งออกของนิวซีแลนด์ไปยังประเทศจีนที่จะน้อยลง และส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจและค่าเงิน อีกปัจจัยหนึ่งที่ทําให้ NZD เคลื่อนไหวอย่างเจาะจงคือราคานม เนื่องจากอุตสาหกรรมนมเป็นสินค้าส่งออกหลักของนิวซีแลนด์ ราคานมที่สูงช่วยเพิ่มรายได้จากการส่งออก ซึ่งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและต่อสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์
ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ตั้งเป้าที่จะบรรลุและรักษาอัตราเงินเฟ้อระหว่าง 1% ถึง 3% ในระยะกลาง โดยมุ่งเน้นที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ใกล้จุดกึ่งกลางที่ 2% ด้วยเหตุนี้ธนาคารจึงจะกําหนดระดับอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม เมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงเกินไป RBNZ จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อทําให้เศรษฐกิจเย็นตัวลง แล้วการดำเนินการดังกล่าวจะทําให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้นเพิ่มความน่าสนใจของนักลงทุนที่จะลงทุนในประเทศและช่วยหนุนค่าเงิน NZD ในทางตรงกันข้าม อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงมีแนวโน้มที่จะทำให้ NZD อ่อนค่าลง ด้านส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยหรือที่เรียกว่า Rate Differential ในนิวซีแลนด์คือระดับของอัตราดอกเบี้ยในนิวซีแลนด์หรือที่ธนาคารกลางคาดการณ์ เทียบกับอัตราดอกเบี้ยที่เป็นหรือกําหนดโดยธนาคารกลางสหรัฐ ยังสามารถมีบทบาทสําคัญในการขยับคู่เงิน NZD/USD
การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจระดับมหภาคในนิวซีแลนด์เป็นกุญแจสําคัญในการประเมินสถานะทางเศรษฐกิจและอาจส่งผลกระทบต่อการประเมินมูลค่าของดอลลาร์นิวซีแลนด์ได้ เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งบนพื้นฐานของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูง การว่างงานต่ำและความเชื่อมั่นนักลงทุนที่สูงเป็นปัจจัยบวกสําหรับ NZD การเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจนี้มาพร้อมกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ในทางกลับกันหากข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ สกุลเงิน NZD ก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง
ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) มีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นในช่วงที่ต้องมีความกล้าเสี่ยง หรือแม้เมื่อนักลงทุนรับรู้ว่าความกล้าเสี่ยงของด้านตลาดในวงกว้างอยู่ในระดับต่ำแต่มีการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตการเติบโต สถานการณ์นี้ก็มีแนวโน้มที่จะนําไปสู่แนวโน้มเชิงบวกมากขึ้นสําหรับสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ และสกุลเงินแบบที่เรียกว่า 'สกุลเงินสายสินค้าโภคภัณฑ์' อย่างเช่นกีวีด้วย NZD มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนหรือมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เนื่องจากนักลงทุนมักจะขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและหลบไปถือสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีเสถียรภาพมากกว่า