tradingkey.logo

ฟอเร็กซ์วันนี้: ตลาดโฟกัสไปที่ข้อมูลศก. สหรัฐฯ หลายตัวก่อนเข้าสู่วันหยุดวันขอบคุณพระเจ้า

FXStreet27 พ.ย. 2024 เวลา 8:51

นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้ในการลงทุนวันพุธที่ 27 พฤศจิกายน:

ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ทรงตัวหลังจากการเคลื่อนไหวที่ผันผวนมาเป็นเวลาสองวัน ดัชนี USD ขยับตัวไซด์เวย์เล็กน้อยต่ำกว่า 107.00 ในเช้าของตลาดยุโรปวันพุธ ก่อนวันหยุดวันขอบคุณพระเจ้า ปฏิทินเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจระดับสูงหลายรายการ ยกตัวอย่างเช่นดัชนีราคารายจ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) และคําสั่งซื้อสินค้าคงทนสําหรับเดือนตุลาคม

ราคาดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์นี้

ตารางด้านล่างแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เทียบกับสกุลเงินหลักที่ระบุไว้ สัปดาห์นี้ ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าที่สุดเมื่อเทียบกับ เยนญี่ปุ่น

  USD EUR GBP JPY CAD AUD NZD CHF
USD   -0.61% -0.36% -1.31% 0.80% 0.36% -0.26% -0.73%
EUR 0.61%   0.08% -1.32% 0.81% 0.90% -0.24% -0.71%
GBP 0.36% -0.08%   -1.40% 0.74% 0.82% -0.31% -0.78%
JPY 1.31% 1.32% 1.40%   2.15% 2.14% 1.13% 0.77%
CAD -0.80% -0.81% -0.74% -2.15%   -0.29% -1.04% -1.55%
AUD -0.36% -0.90% -0.82% -2.14% 0.29%   -1.12% -1.59%
NZD 0.26% 0.24% 0.31% -1.13% 1.04% 1.12%   -0.48%
CHF 0.73% 0.71% 0.78% -0.77% 1.55% 1.59% 0.48%  

แผนที่ความร้อนแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินหลักเมื่อเทียบกัน สกุลเงินหลักจะถูกเลือกจากคอลัมน์ด้านซ้าย ในขณะที่สกุลเงินอ้างอิงจะถูกเลือกจากแถวบนสุด ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือก ดอลลาร์สหรัฐ จากคอลัมน์ด้านซ้าย และเลื่อนไปตามเส้นแนวนอนไปยัง เยนญี่ปุ่น เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงที่แสดงในกล่องจะแสดงถึง USD (สกุลเงินหลัก)/JPY (สกุลเงินรอง)

ในตลาดลงทุนอเมริกาวันอังคาร การที่นักลงทุนยอมรับความเสี่ยงได้เล็กน้อยทําให้ USD สะสมความแข็งแกร่งได้ยาก ในช่วงเช้าวันพุธ ฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวน ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพยายามดิ้นรนเพื่อปรับตัวขึ้นต่อจากวันอังคารและยังคงวิ่งอยู่ต่ำกว่า 4.3% นอกเหนือจากการเปิดเผยข้อมูลที่กล่าวถึงข้างต้นแล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จะประกาศข้อมูลจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และสํานักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะประกาศประมาณการการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) YoY สําหรับไตรมาสที่สามครั้งที่สอง

ในช่วงที่ตลาดลงทุนเอเชียเปิด ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ประกาศว่าได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 50 จุดเบสิส (bps) เป็น 4.25% จาก 4.75% การตัดสินใจครั้งนี้สอดคล้องกับสิ่งที่ตลาดคาดการณ์ "หากสภาวะเศรษฐกิจยังคงเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ คณะกรรมการคาดว่าจะสามารถลด OCR ได้อีกในช่วงต้นปีหน้า" RBNZ ระบุในแถลงการณ์นโยบาย แอนเดรียน ออร์ (Adrian Orr) ผู้ว่าการ RBNZ กล่าวถึงแนวโน้มนโยบายว่าประตูยังคงเปิดสําหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 50 bps ในเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากผันผวนอย่างรุนแรงเป็นปฏิกิริยาทันทีต่อการประกาศของ RBNZ NZDUSD ก็ได้รับแรงหนุน และล่าสุดเห็นเคลื่อนไหวในแดนบวกเหนือ 0.5850

ในวันอังคาร EURUSD ล้มเหลวในการเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างเด็ดขาด และปิดวันนั้นแทบไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งคู่เคลื่อนไหวค่อนข้างสงบในเช้าของตลาดยุโรปวันพุธ และผันผวนในกรอบราคาแคบๆ ต่ํากว่า 1.0500

ในวันอังคาร GBPUSD เสียแรงหนุนจากทดสอบ 1.2600 เป็นวันที่สองติดต่อกัน ทั้งคู่ขยับตัวไซด์เวย์เหนือ 1.2550 ในช่วงเริ่มต้นเซสชั่นยุโรป

ในวันอังคาร USDJPY อยู่ภายใต้แรงกดดันขาลงและลดลง 0.7% ทั้งคู่ยังคงปรับตัวลดลง ล่าสุดเห็นปรับตัวลดลงมากกว่า 0.5% ในวันพุธ เคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 152.00

ทองคําฟื้นตัวเล็กน้อยหลังจากร่วงลงสู่ระดับ 2,600 ดอลลาร์ในวันอังคาร และปิดวันด้วยการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย XAUUSD ดีดตัวขึ้นต่อในช่วงเช้าวันพุธ และเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ 2,650 ดอลลาร์

Inflation FAQs

อัตราเงินเฟ้อวัดการเพิ่มขึ้นของราคาในตะกร้าสินค้าและบริการที่ใช้อ้างอิง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมักแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเทียบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะไม่รวมองค์ประกอบที่มีความผันผวนสูงเช่น อาหารและเชื้อเพลิง ปัจจัยเหล่านี้อาจผันผวนเพราะสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็นตัวเลขที่นักเศรษฐศาสตร์ให้ความสำคัญและเป็นตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้อ้างอิงในการกำหนดเป้าหมาย ธนาคารกลางฯ นิยมคงอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2%

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาตะกร้าสินค้าและบริการในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยปกติ CPI จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) CPI หลักคือตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้กำหนดราคาเป้าหมาย เพราะ CPI ทั่วไปไม่รวมปัจจัยเช่นการผลิตอาหารและเชื้อเพลิงที่มีความผันผวน ดังนั้น เมื่อ CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% จึงมักจะส่งผลให้ธนาคารกลางปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อ CPI ลดลงต่ำกว่า 2% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จึงเป็นผลดีต่อสกุลเงิน อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมักส่งผลให้สกุลเงินแข็งค่าขึ้น และตรงกันข้าม สกุลเงินจะอ่อนค่าเมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลง

แม้ว่าอาจดูเหมือนขัดกับภาพความเป็นจริงที่เห็น แต่อัตราเงินเฟ้อในประเทศที่สูงจะผลักดันมูลค่าของสกุลเงินของประเทศนั้นๆ ให้สูงขึ้นเพราะการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งดึงดูดเงินจากนักลงทุนทั่วโลกให้ไหลเข้าประเทศ เพราะพวกเขากำลังมองหาสถานที่ที่มีกำไรจากการฝากเงินของพวกเขา

ในอดีต ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนหันไปพึ่งพาในช่วงเวลาที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง เนื่องจากทองคำยังคงรักษามูลค่าไว้ได้ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนอย่างรุนแรง นักลงทุนมักจะซื้อทองคำด้วยสถานะการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ในปัจจุบันมักไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูง ธนาคารกลางต่างๆ มักจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจึงไม่เป็นผลดีต่อทองคำ เนื่องจากทำให้ต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำลดลงเพราะเป็นสินทรัพย์ที่ดอกเบี้ยไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการนำเงินไปฝากในบัญชีเงินสด ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงมีแนวโน้มที่จะส่งผลบวกต่อทองคำ เพราะจะทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง ทำให้โลหะมีค่าเป็นทางเลือกการลงทุนที่มีโอกาสมากขึ้น

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: เนื้อหาข้างต้นทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการใช้งานแพลตฟอร์มของเรา ไม่ได้ให้คำแนะนำในการซื้อขายและไม่ควรเป็นพื้นฐานของการตัดสินใจซื้อขายใดๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง