Investing.com - คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) กำลังลดขนาดหน่วยงานพิเศษที่รับผิดชอบด้านการบังคับใช้กฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโต หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้านโยบายลดกฎระเบียบ ตามรายงานของ New York Times (NYSE:NYT) เมื่อวันอังคาร
รายงานของ NYT อ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าว 5 รายที่มีความรู้ในเรื่องนี้ โดยระบุว่า SEC จะลดขนาดหน่วยงานพิเศษที่มีสมาชิกมากกว่า 50 คน ซึ่งประกอบไปด้วยทนายความและเจ้าหน้าที่ที่มุ่งเน้นการกำกับดูแลสินทรัพย์คริปโต
บางส่วนของทนายความในหน่วยงานคริปโตจะถูกโยกย้ายไปยังแผนกอื่น ขณะที่บางคนที่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มองว่าเป็น “การลดตำแหน่งอย่างไม่เป็นธรรม” ตามรายงานของ NYT
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่ทรัมป์ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อจัดตั้งกรอบการกำกับดูแลใหม่ และ “กำจัดการใช้กฎระเบียบที่มากเกินไปเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิตอล”
ทรัมป์เคยหาเสียงด้วยจุดยืนที่สนับสนุนคริปโต และเมื่อเดือนที่แล้วก็ได้แต่งตั้ง Mark Uyeda จากพรรครีพับลิกัน ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการประธาน SEC โดยหนึ่งในมาตรการแรกของอูเยดะ คือการตั้งทีมงานเพื่อทบทวนแนวทางของ SEC ที่เน้นการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับคริปโต
ทีมงานดังกล่าวนำโดย Hester Peirce กรรมาธิการ SEC ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนคริปโตที่มีชื่อเสียง
อย่างไรก็ตาม SEC ยังคงมีคดีฟ้องร้องที่ดำเนินอยู่กับบริษัทคริปโตหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Coinbase (NASDAQ:COIN) แม้นักลงทุนจะคาดว่าคดีนี้อาจถูกยกเลิกภายใต้รัฐบาลของทรัมป์
ก่อนหน้านี้ อดีตประธาน SEC อย่าง Gary Gensler ได้เป็นผู้นำในการปราบปรามอุตสาหกรรมคริปโต หลังจากเกิดเหตุการณ์ล่มสลาย การฉ้อโกง และการล้มละลายครั้งใหญ่หลายครั้งในปี 2022
ทรัมป์ได้เสนอชื่อ Paul Atkins ทนายความจากวอชิงตัน ให้ดำรงตำแหน่งประธาน SEC คนต่อไป ซึ่ง Atkins ถือเป็นผู้ที่สนับสนุนแนวทางการกำกับดูแลสินทรัพย์คริปโตที่ผ่อนคลายมากขึ้น
Bitcoin ซึ่งเป็นคริปโตเคอร์เรนซีอันดับ 1 ของโลก เคยพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดก่อนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ในช่วงปลายเดือนมกราคม อย่างไรก็ตาม ในการซื้อขายล่าสุด Bitcoin ลดลง 4% มาเป็น 97,564.7 ดอลลาร์ ณ เวลา 06:31 น.(GMT+7)