tradingkey.logo

การคาดการณ์ราคาเงิน: XAG/USD ถอยกลับจากจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือน หมีมองที่ $34

FXStreet28 มี.ค. 2025 เวลา 20:19
  • โลหะเงินปรับตัวลดลงหลังจากการวิ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากเทรดเดอร์ลดการเปิดเผยก่อนการประกาศข้อมูลมหภาคที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า
  • การปิดต่ำกว่า $34.23 จะเปิดทางสู่การย่อตัวที่ลึกขึ้น โดยมีเป้าหมายด้านล่างที่ $33.51 และ $33.00
  • เทรดเดอร์ขาขึ้นต้องรักษาระดับเหนือ $34.25 เพื่อทดสอบจุดสูงสุดตั้งแต่ต้นปีที่ $34.58 และทำการวิ่งไปที่ $35.00

ราคาโลหะเงินแตะระดับสูงสุดในรอบห้าเดือน แต่ถอยกลับไปที่ระดับ $34 ในช่วงปลายวันศุกร์ ขณะที่เทรดเดอร์เตรียมตัวสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยมองไปที่ตารางเศรษฐกิจที่ยุ่งในสหรัฐอเมริกา (US) ณ เวลาที่เขียน คู่ XAG/USD ซื้อขายอยู่ที่ $34.03 ลดลงกว่า 1%

การคาดการณ์ราคา XAG/USD: แนวโน้มทางเทคนิค

โลหะเงินแตะที่ $34.58 ก่อนที่จะถอยกลับ เนื่องจากเทรดเดอร์ดูเหมือนจะทำกำไรและลดความเสี่ยงออกจากตลาด ขณะที่โลหะสีเทาลดลง มันได้ทะลุแนวรับแรกที่เห็นที่ $34.23 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม หากผู้ขายสามารถปิดต่ำกว่าระดับดังกล่าวได้ XAG/USD อาจขยายการขาดทุนต่ำกว่า $34.00

ในกรณีนั้น แนวรับแรกจะเป็นจุดต่ำสุดประจำวันเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ $33.51 เมื่อทะลุผ่านไปแล้ว จุดถัดไปจะเป็น $33.00 ในทางกลับกัน หากโลหะเงินยังคงอยู่เหนือ $34.25 เทรดเดอร์ขาขึ้นอาจพร้อมที่จะคว้าจุดสูงสุดตั้งแต่ต้นปี (YTD) ที่ $34.58 ก่อนที่จะทดสอบที่ $35.00

กราฟราคา XAG/USD – รายวัน

โลหะเงิน FAQs

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง