TradingKey - หลังจากที่ Tesla (TSLA.US) ได้นำเทคโนโลยี Full Self-Driving (FSD) เข้าสู่ตลาดจีนในที่สุด Tesla กำลังเผชิญกับปัญหาอีกครั้งเนื่องจากยอดขายรถยนต์ในยุโรปลดลงถึงครึ่งหนึ่ง
ในวันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ ราคาหุ้นของ Tesla ลดลงอย่างรวดเร็วถึง 10% ในช่วงหนึ่งและปิดตลาดลดลง 8.39% ที่ระดับ 302.80 ดอลลาร์ การลดลงอย่างรุนแรงในวันนั้นทำให้มูลค่าตลาดของ Tesla ลดลงต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดอยู่ที่ 9.73961 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024
[แผนภูมิราคาหุ้น Tesla 2025, ที่มา: TradingView]
ข่าวสารของ Tesla ในวันอังคารมีทั้งด้านดีและด้านร้าย ในด้านหนึ่ง ฟังก์ชัน FSD ที่ผู้คนรอคอยอย่างยาวนานได้ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดจีน แต่ในอีกด้านหนึ่ง ยอดขายรถยนต์ของ Tesla ในยุโรปลดลงอย่างรวดเร็วในเดือนมกราคม
ในวันที่ 25 Tesla ได้ประกาศว่า ฟังก์ชันช่วยขับขี่ Urban Road Autopilot ได้ถูกเปิดตัวเป็นชุดสำหรับลูกค้าชาวจีนเพื่ออัปเดต
อย่างไรก็ตาม เวอร์ชันที่เปิดตัวในครั้งนี้ไม่ได้ตรงตามการขับขี่อัตโนมัติแบบ FSD ตามที่ Musk ได้อธิบายไว้อย่างครบถ้วน แต่เป็นเวอร์ชันที่ได้รับการปรับปรุงโดยอิงจาก EAP โดยมีการเปลี่ยนชื่อจาก “Full Self-Driving” เป็น “ฟังก์ชันช่วยขับขี่อัจฉริยะ” หรือที่เรียกกันว่า “FSD ที่บ้าน”
มีการประเมินบางอย่างระบุว่า FSD ของ Tesla แสดงให้เห็นถึงความแม่นยำในการจำแนกสัญญาณไฟจราจรและการเปลี่ยนเลนที่ค่อนข้างราบรื่น แต่ในสภาพแวดล้อมการจราจรที่ซับซ้อน เช่น ถนนที่ติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วน FSD ยังมีปัญหาในเรื่องการตอบสนองที่ช้า
ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าในเดือนมกราคม Tesla ขายรถยนต์ในยุโรปได้จำนวน 9,945 คัน ลดลง 45% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนแบ่งการลงทะเบียนรถยนต์ใหม่ของ Tesla ในยุโรปลดลงจาก 1.8% เหลือ 1%
อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปโดยรวมไม่ได้ลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้น 37.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน และสัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดรถยนต์ยุโรปก็เพิ่มขึ้นถึง 15%
ในขณะเดียวกัน การปลดพนักงานอย่างมากมายซึ่งมีผลมาจาก DOGE ของ Musk ก็ได้ทำให้เกิดผลเสียในตลาดต่อหุ้นของ Tesla
นักวิเคราะห์จาก Saxo Bank ระบุว่าความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่ Tesla จะเผชิญในปี 2025 ไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยี แต่คือการรับรู้ของตลาด ภาระทางการเมืองของ Musk ขณะนี้กำลังมีผลกระทบต่อยอดขาย ความภักดีในแบรนด์ และความเชื่อมั่นของนักลงทุน