- เทสลากำลังเตรียมเปิดตัวระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบในยุโรปและจีนต้นปีหน้า
- หุ้นเทสลาพุ่งขึ้น 6% หลังประกาศการเปิดตัวระบบนี้ในต่างประเทศ
- เทคโนโลยี FSD ถือเป็นกลยุทธ์หลักในการทำให้เทสลาเป็นบริษัทที่ยึดเทคโนโลยี AI เป็นศูนย์กลาง
เทสลา (Tesla) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ได้ประกาศผ่านโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) เมื่อวันที่ 5 กันยายนว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ "Full Self Driving" (FSD) ในภูมิภาคยุโรปและจีนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 ระบบ FSD จะเป็นฟีเจอร์เสริมที่ต้องชำระเงินและขณะนี้กำลังรอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลในทั้งสองภูมิภาคนี้
สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่าหลังจากเทสลาแจ้งข่าวเกี่ยวกับการเปิดตัวระบบ FSD ในต่างประเทศ หุ้นของเทสลาพุ่งขึ้นถึง 6% ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อความสำเร็จของเทสลาในตลาดต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม เทสลายังต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลก่อนที่จะสามารถเปิดตัวระบบ FSD ในยุโรปและจีนได้ โดยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา กล่าวคาดการณ์ว่า บริษัทจะได้รับอนุญาตภายในสิ้นปี 2567
เทคโนโลยี FSD ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของมัสก์ในการทำให้เทสลาเป็นบริษัทที่ยึดเอาเทคโนโลยี AI เป็นศูนย์กลางมากยิ่งขึ้น และผลักดันเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น ระบบ FSD เป็นการยกระดับจากระบบ Autopilot ที่มีอยู่เดิมของเทสลา โดยปัจจุบันเทสลาได้ให้บริการ Enhanced Autopilot ในจีน ซึ่งเป็นบริการพรีเมียมสำหรับลูกค้าที่ต้องการฟังก์ชันการขับขี่อัตโนมัติมากขึ้น
การเคลื่อนไหวในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มัสก์ได้ให้คำมั่นมาตั้งแต่ปี 2559 ว่าเทสลาจะส่งมอบเทคโนโลยีที่ทำให้รถยนต์สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถทำได้ตามคำมั่น ในขณะที่คู่แข่งอย่างเวย์โม (Waymo) และโพนีดอตเอไอ (Pony.ai) ได้เริ่มให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับเชิงพาณิชย์แล้วในสหรัฐฯ และจีนตามลำดับ