tradingkey.logo

5 ปัจจัยที่ต้องจับตา: ข้อมูลเงินเฟ้อ และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

Investing.com24 มิ.ย. 2024 เวลา 6:10

Investing.com -- สำหรับนักลงทุนที่พยายามประเมินว่าการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้เร็วแค่ไหน มาตรวัดเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และข้อมูลเงินเฟ้อเบื้องต้นในเดือนมิถุนายนจากบางประเทศในกลุ่มยูโรโซนจะได้รับความสนใจในสัปดาห์นี้ ความกังวลเกี่ยวกับสัญญาณของความอ่อนแรงในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีบวกกับความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรงก็กำลังได้รับความสนใจเช่นกัน 


นี่คือ 5 สิ่งที่คุณต้องจับตาในสัปดาห์นี้


1.เงินเฟ้อสหรัฐฯ

มาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดชื่นชอบ คือดัชนีราคาค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคล(PCE)มีกำหนดเปิดตัวในวันศุกร์ และควรแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอตัวยังคงดำเนินต่อไปหรือไม่

แต่ค่า PCE ล่าสุดไม่สอดคล้องกับความคาดหวัง ตัวเลขที่ออกมาล่าสุดแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เคลื่อนตัวไซด์เวย์อย่างไม่คาดคิดในเดือนเมษายน


สิ่งนี้อาจกลายเป็นข้อโต้แย้งที่ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ต่างจากเฟดตรงที่ตลาดยังคงรอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้


ปฏิทินเศรษฐกิจยังรวมข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนมิถุนายน และข้อมูลเดือนพฤษภาคมเกี่ยวกับยอดขายบ้านใหม่และยอดขายบ้านมือสอง นอกจากนี้ยังมีประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรกครั้งที่สาม รวมถึงข้อมูลคำสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนพฤษภาคม


2.หุ้นเทคฯแรลลี่อาจจะร้อนแรงเกินไป

นักลงทุนจำนวนมากเชื่อว่าหุ้นเทคโนโลยีในระยะยาวนั้นแข็งแกร่ง เนื่องจากมีรายได้ที่แข็งแกร่งและตื่นเต้นกับศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ แต่ราคาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก รวมถึง Nvidia (NASDAQ:NVDA) ที่เติบโตถึง 155% เมื่อเทียบเป็นรายปี ได้กระตุ้นให้เกิดความกังวลว่าการแรลลี่ในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีอาจจะยืดเยื้อออกไป


หุ้นที่ตามหลังอยู่ เช่น หุ้นขนาดเล็กและหุ้นคุณค่า อย่าง การเงินและอุตสาหกรรมอาจดูเหมือนราคาต่ำกว่าความเป็นจริงในขณะนี้


แต่ถึงแม้จะมีการย่อตัวเกิดขึ้น มีสัญญาณบางประการที่นักลงทุนจะออกจากหุ้นเทคโนโลยีและหุ้นเติบโต การแทงสวนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนั้นพิสูนจ์แล้วว่าทำให้นักลงทุนพลาดโอกาสในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจาก Nasdaq 100 index ได้บวกกว่า 400% ในขณะที่มูลค่า Russell 1000 เพิ่มขึ้นประมาณ 70% ในเวลาเดียวกัน


เทคโนโลยีอาจฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเนื่องจากนักลงทุนรีบซื้อหุ้นที่ราคาลดลงช่วงนี้


3.ราคานำ้มัน

ราคาน้ำมันปรับตัวลงประมาณ 1% ในวันศุกร์ เนื่องจากความกังวลว่าการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกอาจได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ และข่าวเศรษฐกิจเชิงลบจากบางส่วนของโลก


สำหรับสัปดาห์นี้ ดัชนีน้ำมันดิบทั้งสองรายการเพิ่มขึ้นประมาณ 3% หลังจากเพิ่มขึ้นประมาณ 4% ในสัปดาห์ก่อน


เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเจ็ดสัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ เมื่อวันศุกร์ โดยธนาคารกลางสหรัฐพยายามลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งตรงกันข้ามกับท่าทีผ่อนคลายอื่น ๆ ที่มากขึ้น


อัตราที่ลดลงอาจสนับสนุนราคาน้ำมันในปีนี้จากอุปสงค์ทั่วโลกที่ซบเซา การลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะทำให้การกู้ยืมถูกลงในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความต้องการน้ำมันในขณะที่การผลิตเพิ่มขึ้น


ในสัปดาห์ข้างหน้า ราคาน้ำมันก็มีแนวโน้มที่จะยังคงได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์


4.เงินเฟ้อยุโรป

ในเขตยูโรโซน ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปนจะเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเบื้องต้นเดือนมิถุนายนในวันศุกร์


ข้อมูลจะกำหนดทิศทางการเงินทั่วทั้งยูโรโซนในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสำหรับผู้ค้าที่พยายามประเมินว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยกี่ครั้งในปีนี้


ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 6 มิถุนายน แต่อัตราเงินเฟ้อในประเทศและค่าจ้างที่แข็งแกร่งยังคงทำให้เกิดคำถามว่าจะมีนโยบายการเงินอะไรตามมาอีก


ผู้ค้าคาดว่าจะปรับลดอีกครั้งหนึ่งและมีโอกาสประมาณ 64% ที่จะลดอัตราครั้งที่สองภายในสิ้นปี ลดลงจากเกือบ 80% ก่อนการประชุมในเดือนมิถุนายน


ความประหลาดใจนี้อาจทำให้นักลงทุนต้องต่อสู้กับความไม่แน่นอนทางการเมืองครั้งใหม่ หลังจากที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ได้ประกาศการเลือกตั้งฝรั่งเศสรอบแรกเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน


5.ความตึงเครียดดุลการค้า

จีนและสหภาพยุโรปได้ตกลงที่จะเริ่มการเจรจาเกี่ยวกับการกำหนดภาษีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ผลิตในจีนเพื่อนำเข้าตลาดยุโรป


เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา บรัสเซลส์เสนอให้เก็บภาษีหนักเพื่อต่อสู้กับสิ่งที่สหภาพยุโรปพิจารณาสนับสนุนมากเกินไป ภาษีชั่วคราวของสหภาพยุโรปสูงถึง 38.1% สำหรับ EV นำเข้าของจีนซึ่งถูกกำหนดให้มีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 4 กรกฎาคม ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ทั้งหมดในเดือนพฤศจิกายน


การประกาศของคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน เกิดขึ้นภายหลังสหรัฐฯ เคลื่อนไหวที่จะขึ้นภาษีรถยนต์จีนในเดือนพฤษภาคม และเปิดแนวหน้าใหม่ในสงครามการค้าระหว่างตะวันตกกับปักกิ่ง


ทางการจีนได้บอกเป็นนัยถึงมาตรการตอบโต้ที่เป็นไปได้ผ่านการวิจารณ์ของสื่อของรัฐและการสัมภาษณ์บุคคลสำคัญในอุตสาหกรรม


--ข้อมูลจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส

ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยTony
คำปฏิเสธ: เนื้อหาของบทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น และไม่ได้สะท้อนท่าทีอย่างเป็นทางการของ Tradingkey ไม่ควรถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น และผู้อ่านไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยอิงจากเนื้อหาของบทความนี้เท่านั้น Tradingkey ไม่รับผิดชอบต่อผลการซื้อขายใด ๆ ที่เกิดจากการพึ่งพาบทความนี้ นอกจากนี้ Tradingkey ไม่สามารถรับประกันความถูกต้องของเนื้อหาบทความ ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้

บทความแนะนำ