- สถานการณ์เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง จากความอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐและดัชนีราคาผู้ผลิตที่ชะลอตัวลง
- รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด
- ตลาดทองคำและการเมืองไทยมีผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทและการลงทุนของต่างชาติ
ในวันนี้เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 35.03 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากปิดวันก่อนที่ 35.16 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐและดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐที่ชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.2% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนจาก Krungthai GLOBAL MARKETS กล่าว
การเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้คาดว่าจะอยู่ในช่วง 34.85-35.25 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามองคือรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะชะลอลงต่อเนื่อง หาก CPI สูงกว่าคาด อาจทำให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้
ในทางกลับกัน การเมืองไทยก็มีผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาท เนื่องจากตลาดกำลังรอลุ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีถอดถอนนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งหากมีความไม่แน่นอนทางการเมืองเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติขายสินทรัพย์ไทยเพิ่มเติม กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลง
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังคงได้รับความสนใจ โดยราคาทองคำสปอตปรับขึ้นทดสอบระดับ 2,477 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ สะท้อนการปรับตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดใหม่อีกครั้ง ส่วนทองคำไทยยังมีโอกาสวิ่งไม่ถึงระดับสูงสุดเนื่องจากเงินบาทแข็งค่า
การติดตามแนวโน้มของเงินบาทและตลาดทองคำจึงยังคงเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญในช่วงนี้ ทั้งนี้เพื่อประเมินแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมตามสถานการณ์ทางการเงินและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป