tradingkey.logo

เงินเอเชียอ่อนค่าจากความกังวลด้านการค้าของจีน เงินเยนชะลอตัว

Investing.com27 ส.ค. 2024 เวลา 6:30

Investing.com - สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่อ่อนค่าลงในวันนี้ เนื่องจากการกำหนดภาษีการค้าใหม่ของแคนาดาที่มีต่อจีนได้เพิ่มความกลัวเกี่ยวกับสงครามการค้า ขณะที่การฟื้นตัวของเงินเยนญี่ปุ่นก็ถูกขัดขวางโดยข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอ

การฟื้นตัวของเงินดอลลาร์จากระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือนยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดในภูมิภาค เนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง ลิเบีย และยูเครน ทำให้เกิดความต้องการสกุลเงินดอลลาร์ในฐานะที่เป็นสกุลเงินปลอดภัย อีกทั้งความต้องการดังกล่าวยังช่วยจำกัดการขาดทุนของเงินเยนอีกด้วย

แต่ความคาดหวังอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐก็ยังคงทำให้นักลงทุนเลือกถือครองสกุลเงินในภูมิภาคเอเชียมากกว่าดอลลาร์ และทำให้สกุลเงินในภูมิภาคยังคงรักษาการกำไรที่ทำไว้เมื่อเร็ว ๆ นี้ไว้ได้

การฟื้นตัวของเงินเยนหยุดชะงักหลังจากข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอ

คู่เงิน USDJPY ของเงินเยนญี่ปุ่น ขยับขึ้น 0.1% มาเป็น 144.78 เยนในวันนี้ หลังจากแตะระดับ 143 เยนเมื่อต้นสัปดาห์นี้

การฟื้นตัวของเงินเยนหยุดชะงักหลังจากข้อมูล ดัชนีราคาบริการของบริษัท ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อของผู้ผลิตเปิดเผยออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นมากแค่ไหนในปีนี้

เงินเยนยังฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว หลังจาก คาซูโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ย้ำถึงแผนการของธนาคารกลางในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งความคาดหวังเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่ลดลงก็ช่วยหนุนค่าเงินเยนเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอกลับทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับขอบเขตที่ BOJ สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ซึ่งทำให้ความสนใจในสัปดาห์นี้จะจับจ้องไปที่ ข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคในโตเกียว ซึ่งจะประกาศในวันศุกร์นี้

เงินหยวนอ่อนค่าหลังแคนาดากำหนดภาษีนำเข้า

คู่เงิน USDCNY ของเงินหยวนจีน ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากแคนาดาประกาศว่าจะกำหนดภาษีนำเข้า 100% สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้าจากจีน ตามมาตรการที่คล้ายคลึงกันจากสหรัฐและยุโรป

อีกทั้งแคนาดายังจะกำหนดภาษีนำเข้าที่ 25% สำหรับเหล็กที่ผลิตในจีนอีกด้วย

แม้ว่าการส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าไปยังแคนาดาจะมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับยอดขายยานยนต์ไฟฟ้าของจีนทั้งหมด แต่ปักกิ่งยังคงแสดงความไม่พอใจต่อการดำเนินการดังกล่าว ซึ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับภาษีตอบโต้จากจีน ซึ่งอาจนำไปสู่สงครามการค้าครั้งใหม่กับตะวันตก

ภาษีศุลกากรดังกล่าวยังส่งผลเสียต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของจีนอีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้กำลังเผชิญกับการเติบโตที่ซบเซาและภาวะเงินฝืด

เงินดอลลาร์ถูกกดดันจากการคาดการณ์ลดอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีดอลลาร์ และ ดัชนีดอลลาร์ฟิวเจอร์ส ต่างก็ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในตลาดเอเชีย หลังจากเพิ่มขึ้นที่ 0.2% จากระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือนเมื่อวันจันทร์

แต่แนวโน้มของเงินดอลลาร์ยังคงคลุมเครือจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ หลังจากที่เฟดส่งสัญญาณที่ดู dovish อีกทั้งความคาดหวังดังกล่าวยังทำให้แนวโน้มของสกุลเงินเอเชียสดใสขึ้น โดยเทรดเดอร์กำลังคาดการณ์กันว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงที่ 25 หรือ 50 จุดกันแน่ในเดือนกันยายน

แต่สกุลเงินในภูมิภาคส่วนใหญ่ก็ยังคงทรงตัวในวันนี้ โดยคู่เงิน USDKRW ของเงินวอนเกาหลีใต้ ปรับตัวขึ้น 0.2% ขณะที่คู่เงิน USDSGD ของดอลลาร์สิงคโปร์ แทบไม่เคลื่อนไหว

คู่เงิน AUDUSD ของดอลลาร์ออสเตรเลีย ปรับตัวขึ้น 0.2% และทำผลงานได้ดีกว่าสกุลเงินอื่นในเอเชีย เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น

คู่เงิน USDINR ของเงินรูปีอินเดีย ขยับขึ้น 0.1% และเคลื่อนไหวกลับมาใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง

ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยTony
คำปฏิเสธ: เนื้อหาของบทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น และไม่ได้สะท้อนท่าทีอย่างเป็นทางการของ Tradingkey ไม่ควรถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น และผู้อ่านไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยอิงจากเนื้อหาของบทความนี้เท่านั้น Tradingkey ไม่รับผิดชอบต่อผลการซื้อขายใด ๆ ที่เกิดจากการพึ่งพาบทความนี้ นอกจากนี้ Tradingkey ไม่สามารถรับประกันความถูกต้องของเนื้อหาบทความ ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้

ตราสารที่เกี่ยวข้อง

บทความแนะนำ