TradingKey - ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 400 จุด ทำสถิติสูงสุดใหม่ หลังจากตัวเลข GDP สหรัฐในไตรมาส 2/2567 สูงกว่าคาดการณ์
- เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.0% ในไตรมาส 2/2567 โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนภาคเอกชน
- หุ้น Nvidia ลดลงเกือบ 4% แม้ผลประกอบการจะสูงกว่าคาดการณ์ แต่การขายทำกำไรจากนักลงทุนทำให้ราคาหุ้นลดลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดทะยานขึ้นกว่า 400 จุด ทำให้ดัชนีอยู่ที่ 41,510.91 จุด บวก 419.49 จุด หรือ 1.02% ณ เวลา 23.20 น. ตามเวลาไทย สาเหตุหลักมาจากการคลายความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอย หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ขยายตัว 3.0% ในไตรมาส 2/2567 ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ที่ 2.8%
การขยายตัวของเศรษฐกิจในครั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยข้อมูลการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่ปรับตัวขึ้น 2.5% ในไตรมาส 2/2567 ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 2.6% หลังจากมีการขยายตัว 3.4% ในไตรมาสก่อนหน้า
ในด้านการจ้างงาน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่าจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 231,000 ราย ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 232,000 ราย
อย่างไรก็ตาม หุ้นของบริษัท Nvidia ผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์รายใหญ่ลดลงเกือบ 4% แม้ว่าบริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2 สูงกว่าคาดการณ์ แต่ความผิดหวังจากการชะลอตัวของผลประกอบการเมื่อเปรียบเทียบกับหลายไตรมาสที่ผ่านมา ทำให้เกิดการขายทำกำไรจากนักลงทุน
ในขณะนี้ นักลงทุนกำลังจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ โดยคาดว่าดัชนี PCE ทั่วไปจะปรับตัวขึ้น 2.5% เมื่อเทียบรายปีในเดือนกรกฎาคม และ 0.2% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนี PCE พื้นฐานคาดว่าจะปรับตัวขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี