-ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเกือบ 300 จุด ท่ามกลางความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ
-ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาดการณ์ ขณะที่ดัชนี PMI รวมภาคผลิตและบริการลดลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน
-นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดที่แจ็กสัน โฮล หวังหาสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเกือบ 300 จุด เนื่องจากนักลงทุนกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังจากตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาดการณ์ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการลดลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน
ณ เวลา 01.03 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์อยู่ที่ 40,601.73 จุด ลดลง 288.76 จุด หรือ 0.1%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผย ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 232,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 230,000 ราย
ขณะเดียวกัน ดัชนี PMI รวมภาคผลิตและบริการของสหรัฐในเดือนสิงหาคม ปรับตัวลงสู่ระดับ 54.1 จาก 54.3 ในเดือนกรกฎาคม ยังบ่งชี้การขยายตัวของภาคธุรกิจ โดยการขยายตัวของภาคบริการช่วยหนุน แต่ภาคการผลิตยังคงหดตัว
การจ้างงานลดลงทั้งในภาคการผลิตและบริการ คำสั่งซื้อใหม่ของภาคการผลิตลดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 แต่คำสั่งซื้อใหม่ในภาคบริการเพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม ขณะที่ความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว
ดัชนี PMI ภาคการผลิตปรับตัวลงสู่ระดับ 48.0 ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน จาก 49.6 ในเดือนกรกฎาคม ยังคงต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงหดตัว ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.2 สูงสุดในรอบ 2 เดือน จาก 55.0 ในเดือนกรกฎาคม บ่งชี้ว่าภาคบริการมีการขยายตัว
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แจ็กสัน โฮล ในวันที่ 22-24 สิงหาคม หัวข้อ "Reassessing the Effectiveness and Transmission of Monetary Policy" โดยมีธนาคารกลางสหรัฐสาขาแคนซัส ซิตี้เป็นเจ้าภาพ การประชุมนี้ได้รับความสนใจจากผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินจากทั่วโลก
นักลงทุนรอการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในวันพรุ่งนี้เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย เพื่อหาสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย นายพาวเวลเคยกล่าวสุนทรพจน์ในปี 2565 ว่าเฟดยังมุ่งมั่นทำให้เงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมาย 2% และเตือนว่าอัตราดอกเบี้ยสูงจะส่งผลต่อเศรษฐกิจและการว่างงาน
ส่วนในปี 2566 เขาย้ำว่าเฟดพร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ยังสูงเกินไป