ในตลาดลงทุนเอเชียวันจันทร์ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ฟื้นตัวจากขาลงล่าสุดที่บันทึกไว้ในวันก่อนหน้า ราคาน้ำมันซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 68.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเพราะข่าวพายุเฮอริเคนที่อาจเข้าใกล้ชายฝั่งอ่าวสหรัฐฯ
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ (NHC) รายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่าสภาพอากาศไม่เอื้ออํานวยในอ่าวเม็กซิโกทางตะวันตกเฉียงใต้คาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นเป็นพายุเฮอริเคนก่อนที่จะไปถึงชายฝั่งอ่าวตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ตามรายงานของ Reuters ภูมิภาคนี้คิดเป็นประมาณ 60% ของกําลังการกลั่นของสหรัฐฯ
รอยเตอร์ยังอ้างถึงข้อมูลนักวิเคราะห์จาก ANZ ที่ระบุว่า "น้ำมันดิบปรับตัวลดลงรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 11 เดือน ท่ามกลางปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน ข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอในสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ทําให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันที่ลดลงในประเทศผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก"
สํานักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS) รายงานว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 142,000 ตําแหน่งในเดือนสิงหาคม ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 160,000 ตําแหน่ง แต่ดีขึ้นจากตัวเลขที่ถูกปรับลดลงในเดือนกรกฎาคมที่ 89,000 ตําแหน่ง
ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอเพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดเบสิสในการประชุมเดือนกันยายน อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงโดยทั่วไปจะช่วยเพิ่มความต้องการน้ำมัน การกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและทําให้น้ำมันถูกลงสําหรับผู้ถือสกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่ดอลลาร์
จากข้อมูลของ CME FedWatch Tool ตลาดคาดการณ์อย่าง 100% ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 25 จุดเบสิส (bps) ในการประชุมเดือนกันยายน
นอกจากนี้ ตามรายงานของ CNBC นายออสแตน กลูส์บี้ (Austan Goolsbee) ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่าเจ้าหน้าที่เฟดเริ่มเห็นตรงกันความคิดของตลาดในวงกว้างว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ใกล้เข้ามาแล้ว
FedTracker ของ FXStreet ซึ่งใช้โมเดล AI แบบตั้งค่าด้วยตัวเองเพื่อประเมินสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่เฟด โดยวัดระดับ dovish to hawkish ตั้งแต่ 0 ถึง 10 ให้คะแนนความคิดเห็นของประธานเฟดท่านนี้ว่าเป็น dovish โดยให้คะแนน 3.2