-ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% ทะลุระดับ 73 ดอลลาร์ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด
-นักลงทุนเก็งกำไรเข้าสู่ตลาดหลังราคาน้ำมันร่วงกว่า 1% ในวันก่อนหน้า
-สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังคงตึงเครียดหลังอิหร่านเตือนการโจมตีอิสราเอล
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) พุ่งขึ้นกว่า 1% ทะลุระดับ 73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยราคาน้ำมัน WTI ส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 1.21 ดอลลาร์ หรือ 1.68% สู่ระดับ 73.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 22.54 น. ตามเวลาไทย
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.0 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้ส่งแรงซื้อเก็งกำไรเข้าสู่ตลาด หลังจากที่ราคาน้ำมันร่วงลงกว่า 1% ในวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงเฝ้าจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด หลังจากอิหร่านเตือนว่าจะมีการโจมตีอิสราเอลเพื่อตอบโต้เหตุการณ์ลอบสังหารนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส แม้ว่าอิหร่านจะระบุว่าการโจมตีจะไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ แต่จะเกิดขึ้นในเวลาและแนวทางที่อิสราเอลไม่คาดคิด
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานผู้แทนถาวรอิหร่านประจำสหประชาชาติกล่าวว่า การโจมตีของอิหร่านมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการลงโทษอิสราเอลที่ละเมิดอธิปไตยของอิหร่าน และเป็นการแสดงแสนยานุภาพของอิหร่านเพื่อให้อิสราเอลเสียใจต่อการกระทำของตน และเพื่อป้องปรามการดำเนินการใดๆในอนาคตของอิสราเอล