- บริษัท ไทยออยล์ [TOP] มีแผนจัดงบประมาณเพิ่มสำหรับโครงการพลังงานสะอาด (CFP) ประมาณ 63,028 ล้านบาท โดยไม่มีแผนการเพิ่มทุนและยังพร้อมจ่ายเงินปันผลตามปกติ
- การก่อสร้างโครงการต้องล่าช้าไปกว่า 3 ปี เนื่องจากความซับซ้อนของระบบและปัญหาการหยุดงานของกลุ่มผู้รับเหมาช่วง
- บริษัทพยายามแก้ไขสถานการณ์เพื่อให้โครงการเสร็จตรงเวลาในปี 2568 โดยรักษาสิทธิตามสัญญาและไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการจ่ายเงินปันผล
นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทไทยออยล์ [TOP] ได้เปิดเผยแผนการจัดหางบประมาณเพิ่มเติมสำหรับโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project หรือ CFP) จำนวนประมาณ 63,028 ล้านบาท โดยจะใช้เงินสดคงเหลือและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานในปี 2568-2571 และอาจใช้การออกหุ้นกู้หรือกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ รวมถึงการพิจารณาใช้เครื่องมือทางการเงินใหม่ เช่น การออกตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน และการบริหารทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ บริษัทไม่มีแผนการเพิ่มทุนและยังคงจ่ายเงินปันผลตามปกติ
นายบัณฑิตยืนยันว่าการขอเพิ่มงบประมาณครั้งนี้เพียงพอต่อการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จ โดยได้ทำการศึกษาร่วมกับที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญอย่างรอบคอบ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนการลงทุนระดับโครงการในปัจจุบันจะลดลงจากการประเมินในช่วงต้น แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าต้นทุนของกิจการ ซึ่งจะทำให้ไทยออยล์มีผลประกอบการทางการเงินดีขึ้นและเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม โครงการการก่อสร้างต้องล่าช้าออกไปกว่า 3 ปี เนื่องจากความซับซ้อนในการพัฒนาเชื่อมต่อระบบ นอกจากนี้ ปัญหาการหยุดงานของกลุ่มบริษัทรับเหมาช่วงจากการไม่ได้รับค่าจ้างค้างจ่ายจากผู้รับเหมาหลัก UJV ได้ทำให้การดำเนินโครงการต้องเลื่อนออกไป
บริษัทพยายามแก้ไขสถานการณ์เพื่อให้โครงการเสร็จตรงเวลาในปี 2568 โดยเน้นรักษาสิทธิตามสัญญาและไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการจ่ายเงินปันผล นายบัณฑิตย้ำว่าการดำเนินโครงการจะเป็นไปตามหลักสากลและหลักธรรมาภิบาล พร้อมกับมีหน่วยงานตรวจสอบภายในเพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการทำงานเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม