- ราคาหุ้น BANPU ปรับตัวขึ้น 2.59% มาอยู่ที่ 5.95 บาท ท่ามกลางการคาดการณ์ว่ากำไรจากการดำเนินงานในปี 68 จะเติบโต 5 เท่าจากปีนี้
- ธุรกิจถ่านหินมีเสถียรภาพ และราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวดีขึ้น เป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันราคาหุ้นและกำไร
- การควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและการขยายตัวของตลาดก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวแข็งแกร่งในอนาคต
ราคาหุ้นของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ได้ปรับตัวสูงขึ้น 2.59% หรือคิดเป็น 0.15 บาท มาอยู่ที่ 5.95 บาท ณ เวลา 10.42 น. โดยมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 205.67 ล้านบาท หลังจากราคาเปิดที่ 5.95 บาท โดยมีราคาสูงสุดที่ 6.00 บาท และราคาต่ำสุดที่ 5.85 บาท
บล.ธนชาต ให้คำแนะนำในการเข้าซื้อหุ้น BANPU โดยตั้งราคาเป้าหมายไว้ที่ 7.50 บาท คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานในปี 2568 จะเติบโตถึง 5 เท่าจากปีนี้ เนื่องจากธุรกิจถ่านหินที่มีเสถียรภาพและธุรกิจก๊าซที่ได้รับผลดีจากราคาที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้น
การฟื้นตัวของราคาก๊าซ และการควบคุมต้นทุนจะเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันราคาหุ้น BANPU หลังจากราคาหุ้นตกลงถึง 17% ในไตรมาส 3/67 เนื่องจากผลการดำเนินงานที่น่าผิดหวัง โดยคาดว่าราคาหุ้นจะฟื้นตัวในไตรมาส 4/67
แม้ราคาหุ้นจะร่วงลงในไตรมาส 3/67 แต่การคาดการณ์ว่าอุปสงค์ก๊าซธรรมชาติจะปรับตัวดีขึ้น พร้อมกับราคาถ่านหินที่ยังคงสูง และประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้น จะหนุนให้กำไรของ BANPU ฟื้นตัวแข็งแกร่งในปี 2568-2569
ตลาดก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้ความต้องการก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยราคาก๊าซธรรมชาติของสหรัฐฯ ปัจจุบันอยู่ที่ 3.2 เหรียญสหรัฐ/mmbtu เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 2.8 เหรียญสหรัฐในไตรมาส 4/67
BANPU มุ่งเน้นการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในธุรกิจถ่านหินทั้งในออสเตรเลียและอินโดนีเซีย ที่มีการลดต้นทุนต่อหน่วยอย่างเห็นได้ชัด
โดยรวมแล้ว คาดว่ากำไรของ BANPU จะฟื้นตัวจาก 2 พันล้านบาทในปีนี้เป็น 6.6 พันล้านบาทในปี 2569 จากการเพิ่มขึ้นของราคาก๊าซและปริมาณถ่านหิน รวมถึงมาตรการควบคุมต้นทุนที่เข้มงวดและการสนับสนุนจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับ CO2 ที่เพิ่มขึ้น