- ตลาดหุ้นไทยอาจเผชิญความผันผวนในปี 68 จากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ รวมถึงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน แต่ครึ่งปีหลังมีโอกาสฟื้นตัว
- คาดการณ์ SET Index ปี 68 ที่ 1,485 จุด โดยมีโอกาสขึ้นไปถึง 1,585 จุด หากปัจจัยบวกสนับสนุน เตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังในกลุ่ม Auto และปิโตรเคมี
- แนะนำกลยุทธ์การลงทุนเน้นการกระจายความเสี่ยงและการลงทุนในหุ้นกลุ่มปลอดภัยและสินทรัพย์ทางเลือก
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง เปิดเผยแนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 2568 โดยครึ่งปีแรกอาจเผชิญความไม่สดใสจากความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงการเติบโตชะลอตัวของเศรษฐกิจทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีหลังตลาดหุ้นไทยอาจฟื้นตัว เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐและจีนเริ่มปรับตัวดีขึ้น คาดการณ์ SET Index ปี 68 ไว้ที่ 1,485 จุด โดยมีปัจจัยสนับสนุน เช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ย และความเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
นายชัยพรระบุว่า หากมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติม ดัชนี SET อาจปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 1,585 จุด แม้ว่าการลงทุนภาครัฐไม่ได้รับความคาดหวังสูง แต่การจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจรอาจช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวและส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยได้ สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในปี 68 แนะนำให้กระจายความเสี่ยงด้วยการเน้นการลงทุนในตราสารหนี้และหุ้นกลุ่มปลอดภัย เช่น กลุ่มการค้า โรงพยาบาล และการท่องเที่ยว
การกระจายการลงทุนในต่างประเทศควรมองตลาดหุ้นเวียดนามและอินเดีย เนื่องจากมีปัจจัยบวกจากการเติบโตในประเทศ ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐอาจต้องรอการปรับฐานก่อน นอกจากนี้ นายชัยพรยังเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังการลงทุนในกลุ่ม Auto และปิโตรเคมี เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงจากการปรับพฤติกรรมและการขยายกำลังการผลิตที่อาจกดดันผลประกอบการ
พร้อมกันนี้ นายชัยพรแนะนำให้พิจารณาการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง ซึ่งมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี ขณะที่ตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2567 ยังทำผลงานได้ไม่ดีนักเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นเอเชีย โดยได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยในช่วงท้ายปีจากปัจจัยสนับสนุนด้านเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ย
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทย นายชัยพรคาดว่าในไตรมาส 4/67 จะขยายตัวที่ 3.6% จากฐานต่ำและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าการส่งออกอาจมีความเสี่ยงชะลอลง อย่างไรก็ตาม มุมมองการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งปี 67 ยังคงอยู่ที่ 2.6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา