tradingkey.logo

วิเคราะห์ราคาโลหะเงิน: XAGUSD ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อรูปแบบ 'double bottom' ปรากฏขึ้น

3 ก.ค. 2024 เวลา 6:40
  • โลหะเงินเพิ่มขึ้น 0.20% หลังจากพาวเวลล์ยังหนุนนโยบายการเงินเข้มงวด
  • เทคนิค: แนวโน้มขาขึ้นภายในกรอบราคาขาลง อาจเป็นรูปแบบ 'double bottom'
  • ระดับแนวต้าน: $29.50, $30.84 (จุดสูงสุดวันที่ 21 มิถุนายน), $32.29 (จุดสูงสุดของวันที่ 29 พฤษภาคม), $32.51 (สูงสุด YTD)
  • ระดับแนวรับ: $29.00, $28.57 (จุดต่ำสุดของวันที่ 26 มิถุนายน), $27.59 (จุดต่ำสุดของวันที่ 15 เมษายน)

ราคาโลหะเงินปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อตลาดลงทุนอเมริกาเหนือของวันอังคารปิดลง คู่สกุลเงินเคลื่อนไหวอยู่ที่ 29.51 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นมากกว่า 0.20% ในขณะที่เขียนข่าวนี้ โลหะเงินปรับตัวขึ้นเมื่อประธานเฟดนายเจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) กล่าวสุนทรพจน์ในงาน ECB ที่โปรตุเกส ยืนยันการดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวด ซึ่งเขากล่าวว่าทั้งการจ้างงานและเงินเฟ้อของเฟดมีความสมดุลมากขึ้น

การวิเคราะห์ราคา XAGUSD: แนวโน้มทางเทคนิค

แนวโน้มขาขึ้นของโลหะเงินยังคงอยู่ แต่ถูกจำกัดให้วิ่งขึ้นๆ ลงๆ อยู่ในกรอบราคาขาลง แม้ว่า XAGUSD จะสร้างรูปแบบกราฟ 'double bottom' แต่ผู้ซื้อขาดโมเมนตัมในการทะลุกรอบราคาขาลงขึ้นไป ดังที่ RSI ที่เคลื่อนไหวทรงๆ อยู่ใกล้เส้นกึ่งกลาง

เพื่อยืนยันรูปแบบกราฟ 'double bottom' XAGUSD จําเป็นต้องทะลุแนวต้านถัดไป ซึ่งก็คือ $29.50 เมื่อผ่านไปได้ จุดต่อไปจะเป็น neckline ที่ 30.84 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 21 มิถุนายน ตามด้วยจุดสูงสุดของวันที่ 29 พฤษภาคมที่ 32.29 ดอลลาร์ การทะลุตรงนี้ไปได้จะเปิดทางสู่ระดับสูงสุดของปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) ที่ 32.51 ดอลลาร์

ในทางกลับกัน หาก XAGUSD ลงมาวิ่งต่ำกว่า $29.00 ระดับแนวรับถัดไปจะเป็นระดับต่ำสุดของวันที่ 26 มิถุนายนที่ $28.57 การผ่านระดับราคานี้อาจทําให้ราคาลดลงไปสู่ระดับต่ำสุดของวันที่ 15 เมษายนที่ 27.59 ดอลลาร์

การเคลื่อนไหวของราคา XAGUSD: กราฟรายวัน

เครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจ

การตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) พิจารณานโยบายการเงินและตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่กำหนดไว้ล่วงหน้า 8 ครั้งต่อปี มีหน้าที่สองประการ: รักษาอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ 2% และรักษาการจ้างงานเต็มจำนวน เครื่องมือหลักในการบรรลุเป้าหมายนี้คือการกำหนดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งทั้งให้ธนาคารยืมและธนาคารให้ยืมซึ่งกันและกัน หากตัดสินใจที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย เงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) มีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นเนื่องจากดึงดูดเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศมากขึ้น หากลดอัตราดอกเบี้ย ก็มีแนวโน้มที่จะทำให้ USD อ่อนค่าลงเนื่องจากเงินทุนไหลออกไปยังประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หากอัตรายังคงไม่เปลี่ยนแปลง ความสนใจจะเปลี่ยนไปที่น้ำเสียงของแถลงการณ์ของ Federal Open Market Committee (FOMC) และไม่ว่าจะเป็นแบบ hawkish (คาดว่าอัตราดอกเบี้ยในอนาคตจะสูงขึ้น) หรือ dovish (คาดว่าจะมีอัตราดอกเบี้ยในอนาคตที่ต่ำกว่า)

อ่านเพิ่มเติม

ประกาศครั้งล่าสุด: วันพุธที่ 12 มิถุนายน 2024 เวลา 18:00 น

ความถี่ในการประกาศ: ไม่สม่ำเสมอ

ตัวเลขจริง: 5.5%

คาดการณ์: 5.5%

ก่อนหน้านี้: 5.5%

ผู้ประกาศ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: เนื้อหาข้างต้นทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการใช้งานแพลตฟอร์มของเรา ไม่ได้ให้คำแนะนำในการซื้อขายและไม่ควรเป็นพื้นฐานของการตัดสินใจซื้อขายใดๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง