- คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) แสดงความกังวลต่อนโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาททั่วประเทศ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและธุรกิจในหลายภาคส่วน
- กกร. เสนอแนะการปรับค่าจ้างขั้นต่ำให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมของแต่ละพื้นที่และใช้กลไกการตัดสินใจที่โปร่งใสและสมดุล
- มาตรการที่เหมาะสมและเป็นธรรมในนโยบายค่าจ้างจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชน
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้แสดงความเห็นด้วยกับการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของแรงงานไทย แต่ก็มีความกังวลต่อนโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและไทยยังคงเผชิญความผันผวนและเปราะบาง กกร. จึงเสนอแนะให้พิจารณาการปรับค่าจ้างขั้นต่ำโดยคำนึงถึงบริบททางเศรษฐกิจและสังคมของแต่ละพื้นที่เพื่อปกป้องการจ้างงานและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจในภาคส่วนต่าง ๆ
ในมุมมองของ กกร. การกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่เท่ากันทั่วประเทศอาจไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของเศรษฐกิจและสังคมที่แตกต่างกันในแต่ละจังหวัด การปรับขึ้นค่าจ้างอย่างเร่งรีบอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะในภาคเกษตรและบริการ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้า ยังเป็นปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาในการตัดสินใจนโยบายนี้
กกร. จึงเสนอให้การปรับค่าจ้างขั้นต่ำควรใช้กลไกการทำงานร่วมกันของคณะกรรมการค่าจ้าง โดยพิจารณาให้เหมาะสมกับข้อเสนอของคณะอนุกรรมการในแต่ละจังหวัด รวมถึงการปรับที่ไม่ควรเกินปีละ 1 ครั้ง นอกจากนี้ ควรสนับสนุนการจ่ายค่าจ้างตามทักษะและเร่งรัดประกาศอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือเพื่อสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ทั้งนี้เพื่อสร้างแรงงานที่มีทักษะตอบโจทย์การพัฒนาและเพิ่มผลิตภาพแรงงานในระยะยาว การดำเนินนโยบายที่สมดุลจะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับทุกภาคส่วน