ยูโรได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมในวันอังคารและขยายการฟื้นตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นวันที่สามติดต่อกัน โดยมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่กำลังจะประกาศของยูโรโซนโดยรวมจะยังคงอยู่ในระดับสูง การคาดการณ์ถูกปรับแก้หลังจากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับตามมาตรฐานของเยอรมนี (HICP) สำหรับเดือนธันวาคมที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อ HICP รายเดือนเพิ่มขึ้น 0.7% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.5% เมื่อเทียบรายปี อัตราเงินเฟ้อ HICP เพิ่มขึ้น 2.9% เทียบกับ 2.4% ในเดือนพฤศจิกายน
ในขณะเดียวกัน ตลาดกำลังตึงเครียดเกี่ยวกับปฏิกิริยาที่ผันผวนและการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นทันทีเกี่ยวกับแผนภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่ง หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ได้ตีพิมพ์บทความที่กล่าวว่าทรัมป์กำลังพิจารณาที่จะทำให้แผนภาษีของเขาง่ายขึ้นโดยการกำหนดภาษีเดียวสำหรับการนำเข้าและสินค้าที่สำคัญ หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ทรัมป์เองก็ออกมาปฏิเสธข่าวลือและยืนยันว่าแผนการและโครงการจะยังคงเป็นไปตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้
EUR/USD อยู่ในช่วงการฟื้นตัวทางเทคนิคที่สมบูรณ์แบบ แต่ทิศทางต่อไปยังไม่ชัดเจน การพัฒนาทางภูมิรัฐศาสตร์จากวันจันทร์ช่วยให้ยูโรได้รับแรงหนุนที่ระดับ 1.0294 และปรับตัวขึ้นไปเกือบถึง 1.0448 คำถามตอนนี้คือยูโรจะมีพื้นที่เพียงพอที่จะขึ้นไปเหนือ 1.0450 หรือไม่ ซึ่งจะไม่เป็นเช่นนั้นหากพันธบัตรยุโรปเริ่มลดลงจากจุดสูงสุดในวันจันทร์และต้องการแรงหนุนเพิ่มเติมเพื่อดึงยูโรขึ้นไปสู่ระดับ 1.05
ระดับสำคัญแรกที่จะต้องทะลุคือ 1.0448 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวันที่ 3 ตุลาคม 2023 เมื่อผ่านระดับนั้นไปแล้ว เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) 55 วันที่ 1.0558 จะเข้ามามีบทบาท ตัวกระตุ้นเพิ่มเติมจะจำเป็นสำหรับการเคลื่อนไหวเช่นนี้ เนื่องจากอาจกดดันฝั่งตลาดหมีของดอลลาร์
ในด้านขาลง ก่อนถึงระดับต่ำสุดในรอบสองปีที่ 1.0224 ระดับ 1.0294 กำลังทำหน้าที่เป็นแนวรับแรกใหม่ มันเป็นจุดสำคัญในวันจันทร์ที่ให้พื้นที่สำหรับผู้ซื้อใน EUR/USD เข้ามามีส่วนร่วมและผลักดันการเคลื่อนไหวของราคาให้สูงขึ้น ต่อไป ระดับตัวเลขกลมๆ ที่ 1.02 จะหมายถึงระดับต่ำสุดใหม่ในรอบสองปี การทะลุระดับนั้นจะเปิดพื้นที่ให้ไปถึงระดับพาร์ตี้ที่ 1.0100 เป็นแนวรับสุดท้ายก่อนถึงระดับ 1.00 ที่สำคัญ
EUR/USD: Daily Chart
อัตราเงินเฟ้อวัดการเพิ่มขึ้นของราคาในตะกร้าสินค้าและบริการที่ใช้อ้างอิง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมักแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเทียบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะไม่รวมองค์ประกอบที่มีความผันผวนสูงเช่น อาหารและเชื้อเพลิง ปัจจัยเหล่านี้อาจผันผวนเพราะสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็นตัวเลขที่นักเศรษฐศาสตร์ให้ความสำคัญและเป็นตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้อ้างอิงในการกำหนดเป้าหมาย ธนาคารกลางฯ นิยมคงอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2%
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาตะกร้าสินค้าและบริการในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยปกติ CPI จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) CPI หลักคือตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้กำหนดราคาเป้าหมาย เพราะ CPI ทั่วไปไม่รวมปัจจัยเช่นการผลิตอาหารและเชื้อเพลิงที่มีความผันผวน ดังนั้น เมื่อ CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% จึงมักจะส่งผลให้ธนาคารกลางปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อ CPI ลดลงต่ำกว่า 2% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จึงเป็นผลดีต่อสกุลเงิน อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมักส่งผลให้สกุลเงินแข็งค่าขึ้น และตรงกันข้าม สกุลเงินจะอ่อนค่าเมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลง
แม้ว่าอาจดูเหมือนขัดกับภาพความเป็นจริงที่เห็น แต่อัตราเงินเฟ้อในประเทศที่สูงจะผลักดันมูลค่าของสกุลเงินของประเทศนั้นๆ ให้สูงขึ้นเพราะการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งดึงดูดเงินจากนักลงทุนทั่วโลกให้ไหลเข้าประเทศ เพราะพวกเขากำลังมองหาสถานที่ที่มีกำไรจากการฝากเงินของพวกเขา
ในอดีต ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนหันไปพึ่งพาในช่วงเวลาที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง เนื่องจากทองคำยังคงรักษามูลค่าไว้ได้ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนอย่างรุนแรง นักลงทุนมักจะซื้อทองคำด้วยสถานะการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ในปัจจุบันมักไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูง ธนาคารกลางต่างๆ มักจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจึงไม่เป็นผลดีต่อทองคำ เนื่องจากทำให้ต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำลดลงเพราะเป็นสินทรัพย์ที่ดอกเบี้ยไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการนำเงินไปฝากในบัญชีเงินสด ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงมีแนวโน้มที่จะส่งผลบวกต่อทองคำ เพราะจะทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง ทำให้โลหะมีค่าเป็นทางเลือกการลงทุนที่มีโอกาสมากขึ้น