สามองค์กรเศรษฐกิจด้านธุรกิจเกษตรและอาหารของไทย ได้แก่ สถาบันอาหาร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รายงานว่าการส่งออกสินค้าอาหารไทยในปี 2567 มีมูลค่าถึง 1,638,445 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 7.3% ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่ ปัจจัยสำคัญคือความต้องการอาหารเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร หลังสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงในหลายประเทศ และแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ลดลง
การส่งออกข้าว อาหารสัตว์เลี้ยง ปลาทูน่ากระป๋อง และซอสเครื่องปรุงรส เป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการขยายตัวสูง อาทิ ข้าวเพิ่มขึ้น 25.9% เนื่องจากความต้องการนำเข้าข้าวที่สูงขึ้น และอาหารสัตว์เลี้ยงที่เติบโต 30.5% ตามแนวโน้มการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่มองว่าเป็นสมาชิกในครอบครัว
ในปี 2568 การส่งออกสินค้าอาหารไทยคาดว่าจะมีมูลค่า 1,750,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.8% ปัจจัยสนับสนุนมาจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพดีขึ้น ค่าเงินบาทที่ยังคงอยู่ในกรอบที่เอื้อต่อการส่งออก และความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีคุณภาพ
อย่างไรก็ตาม การส่งออกไทยยังคงเผชิญกับความเสี่ยงจากนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มบังคับใช้ในเดือนเมษายน ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจและการค้าโลกที่อาจชะลอตัว เนื่องจากสงครามการค้ารอบใหม่ โดยเฉพาะผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและอำนาจซื้อของผู้บริโภค
ถึงแม้จะมีความเสี่ยงสูงจากปัจจัยภายนอก แต่ผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและความปลอดภัย ซึ่งตอบสนองความต้องการของประเทศคู่ค้าทั่วโลก ทำให้การส่งออกอาหารไทยยังคงมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน