- สัญญาทองคำที่ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม โดยนักลงทุนเลือกซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน
- ราคาทองคำเพิ่มขึ้น 18.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,653.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปีหน้าเนื่องจากสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์
- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประณามรัสเซียและเรียกร้องให้สหรัฐฯ ส่งอาวุธช่วยเหลือยูเครน
สัญญาซื้อขายทองคำในตลาด COMEX ของนิวยอร์กสำหรับส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ปิดบวก 0.70% หรือเพิ่มขึ้น 18.40 ดอลลาร์ โดยปิดที่ 2,653.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นักลงทุนหันมาซื้อทองคำเพิ่มขึ้นในสภาวะสงครามที่ทวีความรุนแรงระหว่างรัสเซียและยูเครนในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งก่อให้เกิดความกลัวต่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง
ดาเนียล พาวิโลนิส นักกลยุทธ์จาก RJO Futures ระบุว่า นักลงทุนเข้าซื้อทองคำหลังรายงานการโจมตีทางทหารของรัสเซียในยูเครนที่มุ่งทำลายระบบพลังงานของประเทศซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ พาวิโลนิสคาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจทะลุ 3,000 ดอลลาร์ในปีหน้าเนื่องจากความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์และการที่ธนาคารกลางต่างๆ ซื้อทองคำเข้าสำรอง
ในด้านนโยบายระหว่างประเทศ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหมส่งอาวุธให้ยูเครนเพื่อเสริมสร้างกำลังต่อกรกับรัสเซีย พร้อมประณามการกระทำของรัสเซียที่โจมตียูเครนในวันที่ 25 ธันวาคม ซึ่งทำให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาไฟฟ้าดับและความไม่สงบ
ขณะเดียวกัน ยูเครนได้เปลี่ยนวันฉลองคริสต์มาสมาเป็นวันที่ 25 ธันวาคมในปี 2566 หลังจากที่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางทหารในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงในสังคมและวัฒนธรรมที่เกิดจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ตึงเครียดในภูมิภาค