Investing
21 พ.ย. 2024 เวลา 6:31
Investing.com - สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่อ่อนค่าลงในวันนี้ ขณะที่ดอลลาร์ยังคงใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมของธนาคารกลางสหรัฐ
การคาดการณ์นโยบายเศรษฐกิจแบบขยายตัว (Expansionary Policies) ภายใต้การบริหารของ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนเงินดอลลาร์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงข้อมูลเงินเฟ้อเดือนตุลาคมที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และสัญญาณจากเฟดที่ดูไม่ค่อยผ่อนคลายมากนัก
บรรยากาศการลงทุนในเอเชียยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากจีน ขณะที่ความต้องการในสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวมก็ลดลงจากความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่เพิ่มขึ้น
เงินดอลลาร์ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม
ดัชนีดอลลาร์ และ ดัชนีดอลลาร์ฟิวเจอร์ส ทรงตัวในตลาดเอเชียหลังปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเซสชั่นที่ผ่านมา
เงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากความระมัดระวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตของเฟด โดยนักลงทุนคาดการณ์โอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในเดือนธันวาคมเพียง 53.3% ซึ่งลดลงจาก 85.7% ที่เคยคาดไว้เมื่อวันก่อน ตามข้อมูลจากเครื่องมือ Fedwatch ของ CME
นักลงทุนยังเพิ่มเดิมพันว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม โดยโอกาสนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 46.7% จากเพียง 14.3% ของเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
การเปลี่ยนแปลงของคาดการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เศรษฐกิจสหรัฐที่ยังึงแข็งแกร่งทำให้เฟดมีเวลาในการพิจารณาการลดดอกเบี้ยในอนาคตมากขึ้น ซึ่งคำพูดของเขาเกิดขึ้นหลังจากรายงานข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อในเดือนตุลาคมยังคงสูง
ชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์ตั้งแต่เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนก็ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนเงินดอลลาร์ เนื่องจากนักวิเคราะห์คาดว่าเขาจะดำเนินนโยบายที่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากจุดยืนด้านการปกป้องทางการค้าและการอพยพเข้าเมือง
ข้อมูลดัชนี PMI ของสหรัฐฯ จะประกาศในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ข้อมูล การยื่นขอรับสวัสดิการว่างงาน นั้นจะมีการประกาศในวันนี้ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ของเฟดหลายคนก็กำลังจะกล่าวคำปราศรัยในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
สกุลเงินเอเชียอ่อนค่าจากความกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ย
สกุลเงินในเอเชียถูกกดดันจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น และความเสี่ยงทางการค้าจากการบริหารงานของทรัมป์
เงินหยวนของจีนได้รับผลกระทบมากที่สุดจากความกังวลเหล่านี้ เนื่องจากทรัมป์สัญญาว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าที่สูงจากจีน โดยคู่เงิน USDCNY ของหยวนเคลื่อนไหวเล็กน้อยในวันนี้ แต่ยังคงอยู่ใกล้กับระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังจากจีนก็ยังคงกดดันเงินหยวน
เงินเยนของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ แต่ยังคงเผชิญกับการขาดทุนอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน โดยคู่เงิน USDJPY ลดลง 0.3% หลังจากแตะระดับ 155 เยนในสัปดาห์นี้
คู่เงิน AUDUSD ของดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้น 0.2% หลังแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่คู่เงิน USDKRW ของวอนเกาหลีใต้และคู่เงิน USDSGD ของดอลลาร์สิงคโปร์ทรงตัว
คู่เงิน USDINR ของรูปีอินเดียขยับขึ้น 0.1% เข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 84.6 รูปี ซึ่งเคยแตะเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน
ข้อมูลดัชนี PMI จากเศรษฐกิจสำคัญในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น จีน ออสเตรเลีย และอินเดีย นั้นกำลังจะมีการประกาศในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งจะให้สัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมทางธุรกิจในภูมิภาคเหล่านี้
ข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ของญี่ปุ่นจะประกาศในวันศุกร์นี้