Investing.com - ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชียวันนี้ และมีแนวโน้มจะปิดสัปดาห์ในแดนบวก เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้นักลงทุนปรับเพิ่มค่าพรีเมี่ยมความเสี่ยงในตลาดน้ำมัน
การหยุดชะงักของอุปทานในนอร์เวย์และการอ่อนตัวลงของค่าเงินดอลลาร์ยังช่วยสนับสนุนราคาน้ำมันในช่วงต้นสัปดาห์ เช่นเดียวกับรายงานที่ระบุว่าองค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) อาจเลื่อนแผนการเพิ่มกำลังการผลิตออกไป
การเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงได้ช่วยให้ราคาน้ำมันเมินต่อปริมาณน้ำมันสำรองในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 0.4% เป็น 74.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.5% สู่ระดับ 70.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 08:44 น. (GMT+7) โดยสัญญาทั้งสองมีการซื้อขายเพิ่มขึ้นระหว่าง 4%-5% ในสัปดาห์นี้
ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนผลักดันราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ยังได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของอุปทานที่เกิดจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อยูเครนเริ่มใช้อาวุธขีปนาวุธระยะไกลที่ผลิตจากตะวันตก
ส่งผลให้รัสเซียตอบโต้ด้วยการลดเกณฑ์การตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ลง
เมื่อวันพฤหัสบดี มีรายงานว่ารัสเซียได้ยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกขนาดกลางไปยังเป้าหมายในยูเครน โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินเตือนว่าอาจมีการโจมตีเพิ่มเติม
ตลาดน้ำมันกังวลเป็นพิเศษว่า ยูเครนอาจสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันและทำให้การจัดหาในตลาดโลกตึงตัว ความกังวลดังกล่าวถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากการซื้อเก็งกำไร หลังจากราคาลดลงอย่างมากในเดือนตุลาคมจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่อย่างจีน
OPEC+ อาจเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตออกไป
OPEC+ กำลังพิจารณาเลื่อนแผนการเพิ่มกำลังการผลิตออกไปจนถึงปีหน้า ตามรายงานของรอยเตอร์สในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวและราคาที่ลดลง
กลุ่ม OPEC+ มีแผนที่จะเริ่มเพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่ช่วงปลายปี 2024 แต่ก็ได้เลื่อนแผนดังกล่าวออกไปหลายครั้งในก่อนหน้านี้ และคาดว่าจะมีการเลื่อนออกไปอีกครั้งเมื่อถึงการประชุมในวันที่ 1 ธันวาคม
การเพิ่มขึ้นของอุปทานนอกกลุ่ม OPEC ก็คาดว่าจะกดดันราคาน้ำมันในปีหน้า โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะอุปทานล้นตลาด ซึ่งการคาดการณ์นี้ทำให้ OPEC ยังคงระมัดระวังในการเพิ่มกำลังการผลิต