- กระทรวงพลังงานเตรียมรับมือราคาน้ำมันไบโอดีเซลสูงขึ้นหลังสิ้นสุดการอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในปี 2569 ด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการยกร่างกฎหมายส่งเสริมปาล์มน้ำมัน
- ราคาน้ำมันปาล์มที่สูงขึ้นทำให้ต้องใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาชดเชยเพื่อรักษาราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 33 บาท/ลิตร
- กฎหมายส่งเสริมปาล์มน้ำมันถูกวางแผนให้คล้ายกับกฎหมายอ้อยและน้ำตาล เพื่อให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์ที่เป็นธรรม
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยว่ากระทรวงพลังงานกำลังเตรียมรับมือกับราคาน้ำมันไบโอดีเซลที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น หลังจากการสิ้นสุดการอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในปี 2569 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันที่อาจได้รับผลกระทบในอนาคต โดยได้มอบหมายนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เป็นประธานคณะกรรมการยกร่างกฎหมายส่งเสริมปาล์มน้ำมัน คาดว่าโครงการจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างภายใน 5-6 เดือน
ปัจจุบัน ราคาน้ำมันปาล์มอยู่ที่ประมาณ 41-42 บาทต่อลิตร ซึ่งแพงกว่าเนื้อน้ำมันเบนซินที่นำมาผสมเกือบเท่าตัว ส่งผลให้ราคาน้ำมันในประเทศไทยสูงขึ้น และต้องใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาชดเชยให้ราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ซึ่งการชดเชยนี้จะสิ้นสุดใน 2 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ เกษตรกรผู้ผลิตปาล์มน้ำมันยังเผชิญปัญหาส่วนแบ่งราคากับโรงสกัด และส่วนใหญ่ผลประโยชน์จากราคาน้ำมันปาล์มที่ปรับเพิ่มขึ้นยังไม่ถึงเกษตรกร
จากน้ำมันปาล์มทั้งหมดในประเทศ ประมาณหนึ่งในสามจะถูกนำมาผสมกับน้ำมันดีเซลใช้ภายในประเทศ ส่วนที่เหลือถูกส่งมาทำผลิตภัณฑ์อื่น ๆ และส่งออกประมาณ 20% ด้วยเหตุนี้ กระทรวงพลังงานจึงเตรียมการร่างกฎหมายส่งเสริมปาล์มน้ำมัน เพื่อสร้างความเป็นธรรมระหว่างเกษตรกรและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมคล้ายกับกฎหมายอ้อยและน้ำตาล นายพีระพันธุ์กล่าวว่าหวังอย่างยิ่งว่ากฎหมายนี้จะช่วยให้เกษตรกรได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่และมีการจัดสรรแบ่งปันผลประโยชน์ที่ชัดเจนและเป็นธรรม
ทั้งนี้ การร่างกฎหมายจะยึดแนวทางจาก พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาล ซึ่งเคยวางระบบจัดสรรผลประโยชน์เพื่อความเป็นธรรมให้กับเกษตรกรในการผลิตน้ำตาลจากอ้อย โดยจะเป็นต้นแบบสำหรับการแก้ปัญหาเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันในอนาคต