- ภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนกันยายน 2567 ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการส่งออกและการบริโภคภาคเอกชนลดลง แต่รายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและการใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มขึ้น
- อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นในทุกหมวด โดยเฉพาะพลังงานและอาหารสด ดุลบัญชีเดินสะพัดลดลง เนื่องจากการขาดดุลบริการ รายได้ และเงินโอน
- แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังคงมีแรงส่งจากภาคท่องเที่ยวและบริการ แต่ยังมีอุตสาหกรรมบางส่วนที่ยังเผชิญแรงกดดัน
น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนกันยายน 2567 ได้ชะลอลงเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการส่งออกสินค้าและการบริโภคภาคเอกชนที่ลดลง อย่างไรก็ดี รายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น และการใช้จ่ายจากภาครัฐทั้งในด้านรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนได้ขยายตัว
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนนี้เพิ่มขึ้นในทุกหมวด โดยหมวดพลังงานได้รับผลกระทบจากฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้า ซึ่งมีมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ ในส่วนของอาหารสดก็มีการปรับเพิ่มขึ้นตามราคาผัก ดุลบัญชีเดินสะพัดแสดงถึงการเกินดุลที่ลดลง เนื่องจากการขาดดุลในส่วนของดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่เพิ่มขึ้น และมีการส่งกลับกำไรและเงินปันผลของธุรกิจสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ดุลการค้ากลับมามีการเกินดุลใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า
สำหรับการคาดการณ์ในอนาคต ธปท. มองว่าเศรษฐกิจไทยยังคงมีแรงส่งจากภาคท่องเที่ยวและบริการอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมทยอยฟื้นตัว แต่บางอุตสาหกรรมยังคงต้องเผชิญกับแรงกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้างและการมีสินค้าคงคลังที่สูง รายรับจากธุรกิจและรายได้ของครัวเรือนในบางกลุ่มยังคงเปราะบาง
ในอนาคตจะต้องติดตามปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย เช่น การฟื้นตัวของการส่งออกและการผลิต การใช้จ่ายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมถึงความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจในระยะยาว