- เงินบาทอ่อนค่าลงมากกว่า 1% ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากผลกระทบจากปัจจัยภายนอกและข่าวการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
- นายเผ่าภูมิ รมช.คลัง เชื่อว่าการคัดเลือกประธานกรรมการ ธปท. ไม่น่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่า
- ยืนยันว่ากระทรวงการคลังและ ธปท. มีการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและให้ความสำคัญกับการพิจารณาอัตราแลกเปลี่ยนในระยะยาว
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวถึงกรณีที่เงินบาทอ่อนค่าลงมากกว่า 1% อย่างมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย โดยนักลงทุนเกรงว่าความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทยอาจมีผลต่อค่าเงินบาท ภายหลังจากข่าวการคัดเลือกนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานกรรมการ ธปท. คนใหม่ ทั้งนี้ นายเผ่าภูมิ ชี้แจงว่า การอ่อนค่าของเงินบาทน่าจะเป็นผลมาจากปัจจัยภายนอกมากกว่า เช่น ผลกระทบจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
นายเผ่าภูมิยังระบุว่า การระบุถึงปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่าไม่น่าจะถูกต้อง เพราะปัจจัยต่าง ๆ มีผลกระทบที่ซับซ้อน ดังนั้นการพิจารณาอัตราแลกเปลี่ยนจะต้องพิจารณาอย่างรอบด้านและให้ความสำคัญในระยะยาว ทั้งนี้ต้องพิจารณานโยบายการเงินของประเทศอื่นประกอบด้วย
สำหรับข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของ ธปท. ภายหลังจากการคัดเลือกประธานกรรมการใหม่นั้น นายเผ่าภูมิไม่ได้ให้ความเห็นในตัวบุคคล แต่ย้ำถึงความน่าเชื่อถือของกระบวนการคัดสรรว่าดำเนินการอย่างถูกต้องตามขั้นตอน และเชื่อมั่นว่ากระบวนการนี้จะคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมที่สุดเข้ามาทำงาน
ในส่วนของการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงการคลังและ ธปท. นายเผ่าภูมิยืนยันว่ามีการประสานงานและให้เกียรติซึ่งกันและกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนจากการหารือเรื่องนโยบายการเงินและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ผ่านมา โดยการพูดคุยและเชื่อมโยงกันจะเป็นแนวทางในการทำงานร่วมกันในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ