- สัญญาทองคำในตลาดนิวยอร์กเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สอง เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างรัสเซียและยูเครน
- ตลาดโลหะมีการปรับตัวขึ้นเช่นกัน สะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนต่อสถานการณ์โลก
- ความคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมมีความสำคัญต่อนักลงทุนที่ติดตามการเคลื่อนไหวของตลาด
สัญญาทองคำในตลาดนิวยอร์กปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่สองเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนหันมาซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยสัญญาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 16.40 ดอลลาร์ หรือ 0.63% ปิดที่ 2,631.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นอกจากนี้ สัญญาโลหะเงินและสัญญาพลาตินัมก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการเติบโตของสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์โลก ในขณะที่สัญญาพัลลาเดียมปรับตัวขึ้นอย่างเด่นชัด โดยเพิ่มขึ้น 29.10 ดอลลาร์ หรือ 2.89% ปิดที่ 1,037.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ความเคลื่อนไหวที่โดดเด่นนี้เกิดขึ้นหลังจากวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ลงนามในกฤษฎีกาเพื่ออนุมัติหลักการใหม่สำหรับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งอาจใช้ในการป้องปรามการโจมตีจากชาติศัตรู ดาเนียล จาลี นักกลยุทธ์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จากบริษัท TD Securities กล่าวว่าการลงนามนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนก็กำลังติดตามการแสดงความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ สำหรับการประชุมในสัปดาห์นี้ เพื่อสังเกตทิศทางอัตราดอกเบี้ย โดยมีการคาดการณ์ถึง 63% ว่าเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคม ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดในอนาคต